บริษัทเวชภัณฑ์ ไฟเซอร์ (Pfizer) และไบโอเอ็นเทค (BioNTech) เตรียมยื่นคำขออย่างเป็นทางการต่อสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือ เอฟดีเอ (FDA) เพื่อให้รับรองการใช้วัคซีนโควิด-19 กับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ
ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค จะขอให้เอฟดีเออนุญาตให้ใช้วัคซีนดังกล่าวเป็นกรณีฉุกเฉินกับเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนจนถึง 5 ขวบ โดยใช้ฉีดสองเข็มในปริมาณโดสที่ต่ำกว่าที่ใช้กับผู้ใหญ่ แม้ผลการทดลองเมื่อเดือนธันวาคมชี้ว่า วัคซีนดังกล่าวมิได้ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในเด็กเล็กวัย 2-4 ขวบเหมือนกับที่สร้างในเด็กในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ก็ตาม
ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค ได้ตัดสินใจเพิ่มวัคซีนเข็มที่สามในการทดลอง ขณะเดียวกัน บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้เร่งเร้าให้ไฟเซอร์เดินหน้าขออนุญาตจากเอฟดีเอสำหรับการฉีดวัคซีนสองเข็มให้แก่เด็กวัยต่ำกว่า 5 ขวบในขณะที่กำลังรอผลการทดสอบแบบสามเข็มดังกล่าว
หากเอฟดีเอและซีดีซีของสหรัฐฯ รับรองคำขอของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค คาดว่าวัคซีนโควิดสำหรับเด็กเล็กนี้จะสามารถนำมาใช้ได้ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้
อีกด้านหนึ่ง บริษัทเวชภัณฑ์ โนวาแวกซ์ (Novavax) ของสหรัฐฯ ประกาศในวันจันทร์ว่า ได้ส่งคำขอไปยังเอฟดีเอให้รับรองวัคซีนโควิด-19 ของตนซึ่งล่าช้ามานานหลายเดือน
ทั้งนี้ วัคซีนของโนวาแวกซ์ใช้เทคโนโลยีแบบเก่าคือการใช้โปรตีนในการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัส โดยผลการทดลองชี้ว่ามีประสิทธิผลราว 90% ในการป้องกันเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ต่าง ๆ
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเทคโนโลยีแบบเก่านี้จะช่วยให้คนที่ยังไม่มั่นใจในเทคโนโลยี mRNA ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา และยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ให้เปลี่ยนใจมาฉีดวัคซีนของโนวาแวกซ์แทน
ที่ผ่านมา วัคซีนของโนวาแวกซ์ผ่านการรับรองแล้วในอินโดนีเซีย เกาหลีใต้ อินเดีย และสหภาพยุโรป แต่การผลิตเป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องจากปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ โดยเชื่อกันว่า วัคซีนของโนวาแวกซ์นี้จะมีบทบาทสำคัญสำหรับการกระจายวัคซีนไปยังประเทศรายได้ปานกลางและต่ำเนื่องจากไม่ต้องเก็บรักษาที่อุณหภูมิเย็นจัดเหมือนกับวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยี mRNA
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์