ผู้คนทั่วโลกแสดงจุดยืนสนับสนุนชาวยูเครนในวันศุกร์ ขณะที่ นานาประเทศร่วมรำลึก 1 ปีของสงครามในยูเครนที่เกิดขึ้นจากการรุกรานของรัสเซีย ด้วยการเปิดไฟตามสีของธงชาติยูเครน ส่องเข้าที่สถานที่สำคัญต่าง ๆ ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
สถานที่มีชื่อเสียงหลายแห่งอย่างเช่น อาคารเอ็มไพร์สเตท (Empire State) ในนครนิวยอร์ก หอคอยไอเฟล (Eiffel Tower) ในกรุงปารีส และโรงอุปรากรซิดนีย์ (Sydney Opera House) ถูกประดับด้วยไฟสีฟ้าและเหลือง เพื่อระลึกถึงสงครามที่ปะทุขึ้นยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว และนำมาซึ่งความสูญเสียมากมาย รวมทั้งการบาดเจ็บล้มตายของคนจำนวนมากจากทั้งยูเครนและรัสเซีย
ความขัดแย้งครั้งนี้ยังส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังเกิดภาวะขาดแคลนพลังงาน ธัญพืช และปุ๋ย ขณะที่ ประชาชนจากทั่วโลกออกมาเรียกร้องให้เกิดสันติภาพขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ตั้งแต่ยุโรป ไปจนถึงตะวันออกกลาง ถึงเอเชีย ละตินอเมริกา
ในบรรดากิจกรรมต่าง ๆ เพื่อรำลึกถึงวันครบรอบสงครามนี้ ส่วนที่โดดเด่นมีอาทิ ขนมเค้กสีเลือดพร้อมกะโหลกตั้งอยู่ด้านบนที่มีผู้นำมาวางไว้กลางถนนในกรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย กลุ่มคนในกรุงเทพฯ ที่ออกมาร่วมโบกธงชาติยูเครนท่ามกลางสภาพอากาศร้อนระอุ และการจัดแสดงซากรถถังของรัสเซียในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เป็นต้น
เอพี รายงานว่า ซากรถถังรัสเซียในกรุงเบอร์ลินนั้นถูกนำมาแสดงไว้ที่ด้านหน้าสถานทูตรัสเซีย โดยรถถังรุ่น ที-72 นี้ถูกยิงถล่มในกรุงเคียฟในช่วงต้นของสงคราม และมีฝ่ายเอกชนขนย้ายมาที่เยอรมนี โดยอ้างว่า เป็นการให้ยืมมาจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทหารของกระทรวงกลาโหมยูเครน
วีแลนด์ จีเบล จากกลุ่ม Berlin Story ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ร่วมจัดงานนี้กล่าวว่า “โลกทั้งโลกควรได้เห็นว่า มีผู้คนจำนวนมากในเยอรมนีที่ยืนเคียงข้างยูเครน และนั่นคือเหตุผลว่า ทำไมเราถึงเอาซากรถถังรัสเซียมาตั้งไว้ที่หน้าประตูของพวกเขา(สถานทูตรัสเซีย)”
ส่วนที่เซอร์เบีย แม้รัฐบาลเบลเกรดจะพยายามรักษามิตรภาพกับรัสเซียไว้และไม่ออกมาร่วมกับชาติตะวันตกอื่น ๆ ในการดำเนินมาตรการลงโทษมอสโก กลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านสงครามก็ยังออกมารวมตัวประท้วงกันอยู่ดี จนทำให้ตำรวจต้องเคลื่อนพลออกมาสกัดไม่ให้คนกลุ่มดังกล่าวไปเคลื่อนไหวที่หน้าสถานทูตรัสเซียในกรุงเบลเกรดในวันศุกร์
รายงานข่าวระบุว่า นักเคลื่อนไหวกลุ่มนี้ต้องการยื่นข้อเรียกร้องให้มีการนำตัวประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เข้ารับการพิพากษาในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยูเครน และได้นำขนมเค้กที่ตกแต่งด้วยครีมสีแดงต่างเลือดพร้อมหัวกระโหลกมาวางไว้ที่ริมทางเดินใกล้ ๆ ที่ทำการสถานทูตรัสเซียด้วย
ที่อังกฤษ นายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็ก ออกมาที่ด้านนอกของบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง เพื่อร่วมกับเอกอัครราชทูตยูเครนและทหารยูเครนจำนวนหนึ่งที่มารับการฝึกอบรมที่อังกฤษ เพื่อยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อไว้อาลัยต่อผู้ที่เสียชีวิตในสงครามครั้งนี้
ขณะเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ส่งมีพระราชกระแสดำรัสสรรเสริญ “ความกล้าหาญและความสามารถในการฟื้นคืนกลับมาอันน่าทึ่ง” ของประชาชนชาวยูเครนด้วย
นอกจากนั้น ที่ศูนย์การประชุมแห่งหนึ่งในเมืองยูเทรคต์ (Utrecht) ประเทศเนเธอร์แลนด์ ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนราว 2,000 คนได้มารวมตัวกันเพื่อฟังคำปราศรัยของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ขณะที่ ผู้ลี้ภัยหลายร้อยคนในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม มารวมตัวกันพร้อมโบกธงชาติยูเครนและร้องตะโกนคำว่า “เพื่อความรุ่งโรจน์ของยูเครน” ในภาษายูเครน
และที่ประเทศฟินแลนด์ ผู้คนนำเทียนมาจุดและวางไว้ที่ขั้นบันไดของมหาวิหารเฮลซิงกิ ในพิธีรำลึกถึงเหยื่อสงครามยูเครน ส่วนที่กรุงโรม ศิลปินสัญชาติอิตาเลียน จิอานฟรังโก เมจเจียโต นำกระสอบที่พิมพ์คำพูดจากบุคคลสำคัญทั่วโลกที่เกี่ยวกับสันติภาพมาจัดแสดงภายใต้ชื่อผลงานว่า “การพบกัน: สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ” (The Meeting: The Symbol of Peace)
เอพี รายงานว่า ไม่มีแผนการจัดกิจกรรมพิเศษใด ๆ ที่กรุงมอสโก ขณะที่ ชาวรัสเซียส่วนใหญ่ได้หยุดงานในวันศุกร์ตามคำประกาศของรัฐบาล ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจออกเยี่ยมบ้านของนักเคลื่อนไหวในบางพื้นที่เพื่อเตือนไม่ให้ออกมาทำการชุมนุมใด ๆ
ส่วนที่บราซิล ชาวยูเครนได้ออกมาร่วมกันประท้วงที่หน้าสถานกงสุงใหญ่รัสเซียในนครเซา เปาโล โดยมีผู้ประท้วงรายหนึ่งชูป้ายที่มีเนื้อความเปรียบเทียบปูติน ว่าเป็น อดอลฟ์ ฮิตเลอร์ คล้าย ๆ กับ ชาวยูเครนในเลบานอนที่ออกมาชุมนุมในกรุงเบรุตพร้อมตะโกนหรือชูป้ายที่มีเนื้อหาว่า “ขอยืนหยัดเคียงข้างยูเครน” และ “ไม่เอาการก่อการร้าย”
ในเอเชียนั้น การออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครนและรำลึกถึงสงครามที่ดำเนินมาครบปีนี้ก็เกิดขึ้นหลายที่ เช่น ที่กรุงโซล ซึ่งชาวเกาหลีใต้และชาวยูเครนที่มาทำงานที่ประเทศนี้ออกมารวมตัวกันที่หน้าสถานทูตรัสเซีย พร้อมจุดเทียนและถือป้ายที่มีข้อความเรียกร้องให้รัสเซียถอนทหารออกจากอาณาเขตของยูเครน
ที่กรุงโตเกียว ประชาชนราว 1,000 คน มาร่วมประท้วงที่สวนฮิบิยะ พร้อมถือป้ายที่มีข้อความว่า “รัสเซีย หยุดรุกรานยูเครนได้แล้ว” ขณะที่ มีผู้ชุมนุมอีกกลุ่มไปรวมตัวกันที่ด้านหน้ามหาวิทยาลัยสหประชาชาติเพื่อร่วมพิธีจุดเทียนไว้อาลัย และมีพระสงฆ์จำนวน 30 รูปที่วัดเซนโคจิ ในเมืองนากาโน มาร่วมทำพิธีสวดมนต์ให้กับผู้ที่เสียชีวิตในสงครามยูเครน
ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ผู้คนได้นำดอกไม้มาวางไว้ที่ด้านหน้าสถานกงสุลใหญ่ยูเครน เพื่อแสดงความอาลัยแด่ผู้เสียชีวิตในสงคราม ขณะที่ ชาวยูเครนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยก็มารวมตัวกันที่หน้าสถานทูตยูเครนในกรุงเทพ โดยหลายคนแต่งกายด้วยสีฟ้า-เหลือง เหมือนธงชาติของตน พร้อมร้องเพลงชาติขณะที่เจ้าหน้าที่สถานทูตชักธงขึ้นเสา ก่อนที่จะเคลื่อนตัวไปยังสวนลุมพินีกันต่อ
- ที่มา: เอพี