ลิ้งค์เชื่อมต่อ

นักเคลื่อนไหวอิหร่านที่ถูกคุมขังอยู่คว้าโนเบลสาขาสันติภาพ 2023


นาร์เกส โมฮัมหมัดดี นักเคลื่อนไหวชาวอิหร่านที่เป็นผู้ชนะรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2023
นาร์เกส โมฮัมหมัดดี นักเคลื่อนไหวชาวอิหร่านที่เป็นผู้ชนะรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2023

รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปีนี้ตกเป็นของ นาร์เกส โมฮัมหมัดดี นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนชาวอิหร่านซึ่งถูกทางการกรุงเตหะรานคุมขังในเรือนจำอยู่

โมฮัมหมัดดี ถูกเจ้าหน้าที่อิหร่านจับกุมไปแล้วถึง 13 ครั้ง และถูกตัดสินว่ามีความผิด 5 ครั้ง ทั้งยังถูกสั่งลงโทษจำคุกเป็นเวลา 31 ปีและให้ถูกโบย 154 ครั้งด้วย

คณะกรรมการรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประกาศว่า ทั้งชีวิตของโมฮัมหมัดดีนั้นเป็นตัวอย่างที่ดีของคำขวัญที่ว่า “ผู้หญิง ชีวิต เสรีภาพ” ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงในอิหร่านใช้เมื่อเริ่มมีการเคลื่อนไหวต่อต้านการเสียชีวิตของ มาห์ซา อามินี สตรีชาวอิหร่านวัย 22 ปี ระหว่างถูกตำรวจศีลธรรมควบคุมตัวไว้ หลังทำการจับกุมในข้อหาไม่ยอมสวมผ้าคลุมศีรษะตามกฎของศาสนาอิสลาม

และหลังมีการประกาศข่าวนี้ออกมาไม่นาน บัญชีอินสตาแกรมของโมฮัมหมัดดีโพสต์คำแถลงจากครอบครัวของเธอที่มาพร้อมกับข้อความแสดงความยินดีต่อชาวอิหร่านทุกคน ซึ่งมีการระบุว่า “โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อผู้หญิงและเด็กหญิงของอิหร่านผู้กล้าหาญ ที่ทำให้โลกทั้งโลกประทับใจไปกับความหาญกล้าในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและความเท่าเทียมกัน”

คำแถลงดังกล่าวมีเนื้อความว่า “รางวัลอันทรงเกียรตินี้เป็นเหมือนพระคัมภีร์ที่อยู่ยั้งยืนยงสำหรับการทุ่มเททำงานอันสันติเพื่อประชาสังคมอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของ นาร์เกส โมฮัมหมัดดี ในการนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงและเสรีภาพให้อิหร่าน” และว่า “น่าเสียดายยิ่ง นาร์เกส ไม่ได้อยู่ที่นี่กับเราเพื่อแบ่งปันช่วงเวลาอันสุดแสนพิเศษนี้ เราไม่สามารถเป็นประจักษ์พยานความรู้สึกยินดีของเธอต่อข่าวสุดแสนพิเศษและน่าประทับใจยิ่งนี้ เนื่องจากการคุมขังเธออย่างไม่เป็นธรรม”

นอกจากนั้น ครอบครัวของโมฮัมหมัดดียังโพสต์ข้อความเพิ่มด้วยว่า ทางครอบครัวไม่สามารถนำส่งข่าวดีนี้ไปให้เธอได้เพราะเรือนจำเอวิน ในกรุงเตหะรานที่เธอถูกคุมขังอยู่ ไม่อนุญาตให้นักโทษในวอร์ดนักโทษการเมืองหญิงรับโทรศัพท์ในวันศุกร์ แต่ก็จะพยายามติดต่อนักเคลื่อนไหวนี้ให้ได้ในวันเสาร์

โมฮัมหมัดดีเริ่มต้นการเป็นนักเคลื่อนไหวในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1990 ขณะที่ยังเป็นนักศึกษาด้านฟิสิกข์อยู่ และโดนจับกุมตัวครั้งแรกในปี 2011 ในฐานทำงานกับนักเคลื่อนไหวที่ถูกจองจำอยู่และครอบครัวของพวกเขา

ต่อมา เธอทำการเคลื่อนไหวในเรื่องโทษประหารชีวิต การทรมานและการใช้ความรุนแรงทางเพศต่อนักโทษการเมืองในอิหร่าน โดยเฉพาะในกรณีของนักโทษหญิง ซึ่งทำให้เธอถูกจับกุมอีกครั้ง

และปีที่แล้ว โมฮัมหมัดดีก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวในหมู่นักโทษ และแสดงจุดยืนสนับสนุนการเดินขบวนชุมนุมตามท้องถนนเพื่อประท้วงกรณีการเสียชีวิตของ มาห์ซา อามินี

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกแถลงการณ์แสดงความยินดีต่อโมฮัมหมัดดี ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในครั้งนี้ พร้อมเรียกร้องให้อิหร่านปล่อยตัวเธอและนักเคลื่อนไหวด้านความเท่าเทียมทางเพศในทันที

ปธน.ไบเดน ระบุในแถลงการณ์ด้วยว่า “น่าเสียใจยิ่ง ที่รางวัลของโมฮัมหมัดดีประกาศออกมาในสัปดาห์เดียวกับที่มีรายงานอันน่ากลัวเกี่ยวกับกรณีที่ตำรวจศีลธรรมอิหร่านทำร้ายร่างกาย อาร์มิตา เจราวานด์ วัย 16 ปี เพราะเธอไม่สวมผ้าคลุมศีรษะ”

ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเสริมว่า สหรัฐฯ จะเดินหน้าสนับสนุนการเคลื่อนไหวของชาวอิหร่านเพื่อต่อสู้ให้ได้มาซึ่งเสรีภาพ โดยการนำทีมผลักดันความคิดริเริ่มทางการทูตที่ดำเนินอยู่ที่องค์การสหประชาชาติเพื่อ “เน้นย้ำให้เห็น ประณาม และส่งเสริมการรับผิดต่อการกระทำทารุณของอิหร่าน” และโดยนำเสนอเครื่องมือต่อต้านการเซนเซอร์เพื่อปรับปรุงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของชาวอิหร่าน และโดยลงโทษบุคคลและองค์กรของอิหร่านที่มีส่วนรับผิดชอบต่อ “การสนับสนุนการกดขี่ข่มเหงประชาชนของรัฐบาล”

  • ที่มา: วีโอเอ

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG