สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานในวันพฤหัสบดีว่า บริษัทรถ เทสลา (Tesla) เรียกคืนรถของตนเป็นจำนวนกว่า 475,000 คัน เพื่อตรวจสอบระบบกล้องมองหลังและกระโปรงหลังรถซึ่งมีรายงานว่า มีปัญหาความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
รายงานข่าวที่อ้างข้อมูลจาก กองบริหารความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐฯ (National Highway Traffic Safety Administration - NHTSA) ระบุว่า เทสลา กำลังเรียกรถพลังงงานไฟฟ้ารุ่น Model 3 และ Model S กลับคืน หลังทางหน่วยงานแจ้งบริษัทเกี่ยวกับปัญหาที่กล้องมองหลังของรถทั้งสองรุ่น ซึ่งเป็นประเด็นตรวจสอบเพิ่มเติม จากที่กำลังสืบสวนระบบช่วยขับเคลื่อนและระบบอื่นๆ ของรถค่ายนี้อยู่
NHTSA เปิดเผยว่า รถที่เทสลาเรียกคืนนั้น เป็นรถที่ผลิตระหว่างปี ค.ศ. 2014 และ 2021 โดยเป็นรถรุ่น Model 3 จำนวน 356,309 คันที่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้องมองหลัง ขณะที่ รถรุ่น Model S อีก 119,009 คันนั้นมีปัญหาเกี่ยวกับกระโปรงหลัง
ทั้งนี้ รอยเตอร์ระบุว่า จำนวนรถที่มีการเรียกกลับมานั้นเท่าๆ กับจำนวนที่เทสลาจำหน่ายได้ในปีที่แล้วด้วย และผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อบริษัทผู้ผลิตรถไฟฟ้าแห่งนี้เพื่อขอความเห็นแต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ขณะจัดทำรายงานข่าวชิ้นนี้
อย่างไรก็ตาม NHTSA กล่าวว่า เทสลา แจ้งว่า บริษัททำการเรียกรถทั้งหมดกลับคืน แม้ยังไม่เคยได้รับแจ้งเกี่ยวกับอุบัติเหตุ เหตุได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากปัญหาของระบบรถที่ว่านี้
ก่อนหน้านี้ หน่วยงานกำกับดูแลด้านความปลอดภัยบนท้องถนนของสหรัฐฯ แห่งนี้ เพิ่งเชิญตัวแทนเทสลามาพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นปัญหากล้องมองข้างของรถบางรุ่นไป หลังจากดำเนินการสอบสวนรถจำนวน 580,000 คัน ที่บริษัทแห่งนี้ติดตั้งระบบที่อนุญาตให้มีการเล่นเกมบนหน้าจอที่แผงด้านหน้ารถ แม้ขณะตัวรถกำลังขับเคลื่อนอยู่ได้ ซึ่งเทสลาตกลงในเวลาต่อมาที่จะยุติระบบดังกล่าวไป
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ เทสลา เพิ่งเรียกคืนรถจำนวน 135,000 คัน ที่มีการติดตั้งจอระบบสัมผัส (touch screen) ซึ่งมีความเสี่ยงว่า อาจทำงานผิดพลาดจนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา NHTSA เริ่มการสอบสวนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของเทสลา หลังเกิดอุบัติเหตุกับรถรุ่นที่มีระบบดังกล่าวหลายครั้ง
