สายการบินแห่งชาตินิวซีแลนด์ เตรียมขอให้ผู้โดยสารชั่งน้ำหนักก่อนขึ้นเครื่องบินในเส้นทางระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบิน ตามรายงานของเอพี
สายการบินแอร์นิวซีแลนด์ ระบุว่าต้องการชั่งน้ำหนักผู้โดยสาร 10,000 คน ระหว่างการทำสำรวจในกรอบเวลา 1 เดือน เพื่อให้นักบินมีความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำหนักและการทรงตัวของเครื่องบินก่อนช่วงเวลาการขึ้นบิน
อลาสแตร์ เจมส์ ผู้เชี่ยวชาญของสายการบินของแอร์นิวซีแลนด์ ระบุในแถลงการณ์ว่า “เราชั่งน้ำหนักทุกสิ่งที่ขึ้นไปบนเครื่องบิน ตั้งแต่สิ่งของ กระเป๋าเดินทาง ไปจนถึงมื้ออาหารบนเครื่อง” และว่า “ส่วนน้ำหนักผู้โดยสาร ลูกเรือ และกระเป๋าสัมภาระถือขึ้นเครื่อง เราจะใช้น้ำหนักโดยเฉลี่ย ซึ่งเราได้รับข้อมูลผ่านการสำรวจนี้”
นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผู้โดยสารสายการบินแอร์นิวซีแลนด์ ที่เคยต้องชั่งน้ำหนักตัวก่อนขึ้นเครื่องในเที่ยวบินในประเทศเมื่อไม่กี่ปีก่อน และเจมส์ย้ำว่าไม่มีอะไรที่ผู้โดยสารต้องกลัวในการก้าวขึ้นตาชั่งเลย เขาย้ำว่า “มันง่ายมากและเป็นทำสำรวจโดยสมัครใจ อีกทั้งการขึ้นชั่งน้ำหนักของผู้โดยสารแต่ละครั้ง เท่ากับช่วยให้บินได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพด้วย”
อย่างไรก็ตาม ทางสายการบินแห่งชาตินิวซีแลนด์ให้ความเชื่อมั่นว่า ตัวเลขน้ำหนักตัวในตาชั่งจะไม่ปรากฎให้ทุกคนได้เห็น เพราะจะไม่มีตาชั่งให้เห็นอย่างชัดเจนตามที่ต่าง ๆ ในสนามบิน ขณะที่ข้อมูลของผู้โดยสารจะไม่ได้รับการเปิดเผยแม้แต่กับเจ้าหน้าที่สายการบินเอง
ทั้งนี้ ตัวเลขน้ำหนักผู้โดยสารเป็นสิ่งที่ทางสำนักการบินพลเรือนนิวซีแลนด์ต้องการ โดยมีข้อกำหนดว่าสายการบินมีทางเลือกในการประเมินน้ำหนักผู้โดยสารหลายรูปแบบ ทางเลือกหนึ่งคือการทำสำรวจน้ำหนักผู้โดยสารเหมือนที่สายการบินดังกล่าวทำในการกำหนดน้ำหนักเฉลี่ย
อีกวิธีหนึ่งคือทางสายการบินต้องยอมรับน้ำหนักมาตรฐานตามเกณฑ์ที่สำนักการบินพลเรือนนิวซีแลนด์กำหนดไว้ คือ ผู้โดยสารอายุ 13 ปีขึ้นไป จะมีน้ำหนักเฉลี่ย 86 กิโลกรัมเมื่อรวมกับน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระขึ้นเครื่อง ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ปรับปรุงล่าสุดเมื่อปี 2004
ข้อมูลสถิติด้านสาธารณสุข พบว่าชาวนิวซีแลนด์มีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น โดยการสำรวจด้านสุขภาพระดับชาติพบว่าอัตราโรคอ้วนในวัยผู้ใหญ่อยู่ที่ 34% เพิ่มจาก 31% เมื่อปีก่อน และอัตราโรคอ้วนในเด็กเพิ่มขึ้นเป็น 13% จากระดับ 10% เมื่อปีก่อนหน้า
สำหรับการชั่งน้ำหนักผู้โดยสารของสายการบินนี้ จะเริ่มต้นในสัปดาห์นี้และสิ้นสุดในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้
- ที่มา: เอพี
