ประชากรผู้สูงอายุในอิสราเอลเกือบ 500,000 คน หรือประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีในอิสราเอล ได้รับวัคซีนโควิดเข็มที่สามแล้ว จากการเปิดเผยของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล นาฟตาลี เบนเนตต์
นายกรัฐมนตรีเบนเนตต์ ประกาศความก้าวหน้าของโครงการฉีดวัคซีนของอิสราเอลซึ่งนำหน้าประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ โดยทางการอิสราเอลเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่สามจากบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ให้ประชาชนมาตั้งแต่ 10 วันที่แล้ว
อิสราเอลคือประเทศผู้นำในด้านการฉีดวัคซีนมาตั้งแต่เริ่มมีวัคซีนโควิดออกมาใหม่ ๆ ซึ่งจนถึงขณะนี้คาดว่ามีประชาชนอิสราเอลราว 5.4 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 9.3 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนแล้วสองโดส
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยโควิดที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลกลับเพิ่มขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากการะบาดของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาที่เชื่อว่าทำให้ประสิทธิผลของวัคซีนลดลง ทำให้รัฐบาลอิสราเอลต้องตัดสินใจฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็มที่สามให้ประชาชน พร้อมกับการนำมาตรการสวมหน้ากากขณะอยู่ในอาคารกลับมาใช้อีกครั้ง
จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ และประเทศในยุโรป ยังคงมิได้อนุมัติให้มีการฉีดวัคซีนเข็มที่สาม และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้เรียกร้องให้ประเทศรายได้สูงชะลอการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ไว้ก่อนจนกว่าประเทศยากจนทั่วโลกจะสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ถึง 10% เป็นอย่างน้อย
ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ณ วันอาทิตย์ตามเวลาในสหรัฐฯ ระบุว่า เวลานี้มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกมากกว่า 202 ล้านคน และมีการฉีดวัคซีนโควิดไปแล้วมากกว่า 4,400 ล้านโดส
สหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด คือกว่า 35.7 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 616,000 คน ตามด้วยอินเดียซึ่งมีผู้ติดเชื้อเกือบ 32 ล้านคน เสียชีวิตเกือบ 428,000 คน และบราซิลมีผู้ติดเชื้อสะสม 20.1 ล้านคน เสียชีวิตแล้ว 563,000 คน
โดยอินเดียเพิ่งฉีดวัคซีนโควิดครบโดสให้กับประชากรได้เพียง 8% เทียบกับตัวเลข 21% ของบราซิล และ 51% ของสหรัฐฯ
(ที่มา: วีโอเอ เอพี รอยเตอร์)