รัฐฟลอริดาเผชิญกับวิกฤติโรงพยาบาลเนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยผู้ป่วยรายใหม่นี้มีอายุน้อยกว่าและมีอาการรุนแรงกว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิม นอกจากนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน และติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาที่กำลังระบาดทางตอนใต้ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการฉีดวัคซีนอยู่ในระดับต่ำ
เมื่อวันอังคาร แพทย์จากสมาคมโรคติดต่อของสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการตรวจเชื้อไวรัสและการฉีดวัคซีนมากขึ้นทั้งในสหรัฐฯ รวมถึงประเทศอื่น ๆ
ดร. โรเชล วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ระบุว่า การระบาดระลอกนี้เป็น “การระบาดของผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน” และไวรัสสายพันธุ์เดลตานี้เป็นไวรัสทางเดินหายใจที่ระบาดได้ง่ายที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง ซึ่งแม้แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วก็อาจติดเชื้อได้
ดร.ริคาร์โด ฟรังโค สมาชิกสมาคมโรคติดต่อของสหรัฐฯ ระบุว่า ไวรัสสายพันธุ์เดลตาเป็นสาเหตุของผู้ติดเชื้อ 89 เปอร์เซ็นต์ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแอละแบมา เขายังระบุด้วยว่า ผู้ป่วยที่รับการรักษาในโรงพยาบาล 97 เปอร์เซ็นต์ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และไวรัสสายพันธุ์เดลตาระบาดได้ง่ายกว่าไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมสองเท่า
ดร. ฟรังโค ระบุว่า ข้อมูลจากการติดตามผู้ป่วยโควิดเผยให้เห็นว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วมีโอกาสติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนถึงแปดเท่า มีโอกาสต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลน้อยกว่า 25 เท่า และหากต้องเข้าโรงพยาบาล ก็มีโอกาสเสียชีวิตน้อยกว่า 25 เท่า
นายแพทย์ผู้นี้สรุปว่า การฉีดวัคซีนมีประสิทธิผลต่อการรับมือไวรัสสายพันธุ์นี้ และผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนก็ยังได้ประโยชน์จากภูมิคุ้มกันหมู่ที่มีมากขึ้นในเขตปกครองที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูง เมื่อเทียบกับเขตปกครองที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ
เขาระบุว่า ภูมิคุ้มกันหมู่จะมีประสิทธิผลเพิ่มขึ้นเมื่อมีผู้ฉีดวัคซีนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีผู้ตรวจเชื้อไวรัสน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงแรกที่มีการระบาดของเชื้อไวรัส ทำให้มีข้อมูลที่น้อยลงเกี่ยวกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา และทิศทางการระบาดของไวรัสสายพันธุ์นี้
ทางด้าน ดร. อีเซเคียล เอ็มมานูเอล จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ระบุว่า การควบคุมการระบาดจะต้องไม่ปฏิบัติแต่ในสหรัฐฯ เท่านั้น เนื่องจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาถูกพบครั้งแรกในต่างประเทศ ก่อนที่จะระบาดมายังสหรัฐฯ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการฉีดวัคซีนให้คนทั่วโลก
ดร. เอ็มมานูเอล ยังระบุด้วยว่า ผู้คนควรใส่หน้ากากในที่สาธารณะทั้งในอาคารและที่กลางแจ้ง รวมถึงการหลีกเลี่ยงกลุ่มคนขนาดใหญ่ จนกว่าการระบาดของไวรัสจะยุติลง