เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ประกาศย้ำในวันพฤหัสบดีว่า สงครามในยูเครนที่ดำเนินมากว่า 15 เดือนนี้แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่กลุ่มพันธมิตรทางทหารนี้ต้องยืนหยัดเคียงข้างกรุงเคียฟและนำส่งความช่วยเหลือให้อย่างต่อเนื่อง
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ ให้ความเห็นดังกล่าวหลังเดินทางถึงที่ทำการใหญ่ของกลุ่มในกรุงบรัสเซลส์ พร้อมระบุว่า หลังยูเครนดำเนินการโจมตีโต้กลับ กองทัพกรุงเคียฟสามารถทำการรุกคืบและปลดปล่อยพื้นที่หลายจุดที่รัสเซียเคยควบคุมไว้ได้จริง
สโตลเทนเบิร์ก กล่าวว่า “นี่คือผลของความเก่งกล้า ความกล้าหาญ ทักษะของทหารยูเครน ทั้งยังเน้นย้ำและแสดงให้เห็นว่า แรงสนับสนุนที่พันธมิตรนาโต้ได้มอบให้ยูเครนเป็นเวลาหลายเดือนทำให้เกิดความแตกต่างในสนามรบแล้ว”
เลขาธิการนาโต้กล่าวเสริมด้วยว่า ยิ่งยูเครนประสบความสำเร็จมากเท่าใดในเวลานี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ยิ่งถูกกดดันหนักให้ต้องมาร่วมโต๊ะเจรจา และยิ่งทำให้ยูเครนมีความได้เปรียบกว่าในการเจรจา พร้อมชี้ว่า หากบรรดาพันธมิตรต้องการให้เกิดสันติภาพอันยืนยาวในยูเครน ทุกฝ่ายต้องเดินหน้าส่งมอบการสนับสนุนทางการทหารให้กับกองกำลังยูเครนต่อไป
และก่อนที่ผู้นำกลาโหมประเทศสมาชิกนาโต้จะเปิดประชุมในวันพฤหัสบดี กลุ่ม Ukraine Contact Group ที่สหรัฐฯ เป็นผู้ก่อตั้งได้ทำการหารือประเด็นความช่วยเหลือทางทหารให้ยูเครน โดย ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระบุในการเปิดประชุมว่า การต่อสู้ในยูเครน “คือ การวิ่งมาราธอน และไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น”
ออสติน กล่าวด้วยว่า “เราจะเดินหน้าส่งมอบความสามารถ [ด้านการรบ] อันเร่งด่วนต่าง ๆ ที่ยูเครนต้องการในเวลานี้ และสิ่งที่[ยูเครน] ต้องใช้เพื่อป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซียให้ปลอดภัยมั่นคงในระยะยาวด้วย”
รมต.กลาโหมสหรัฐฯ ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการส่งมอบระบบป้องกันตนเองทางอากาศให้ยูเครน อันมีความสำคัญยิ่งในการปกป้องพลเรือนของประเทศจากการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย โดยกล่าวว่า “ความทะเยอทะยานเยี่ยงจักรวรรดิของเครมลินทำให้เกิดความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่ไม่มีใครคาดถึงต่อประชาชนชาวยูเครน แต่ยูเครนก็ยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราด้วยการแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการพลิกฟื้นกลับมายืนหยัด ความกล้าหาญ และความมุ่งมั่นที่ไม่เคยย่อท้อที่จะทำให้ประเทศของพวกเขาเสรีและมั่นคง”
ขณะเดียวกัน นอร์เวย์และเดนมาร์กประกาศแผนความร่วมมือในการนำส่งกระสุนปืนใหญ่หลายพันชุดให้กับยูเครนแล้ว
บยอร์น อาริลด์ แกรม รัฐมนตรีกลาโหมนอร์เวย ระบุในแถลงการณ์ว่า “ยูเครนมีความต้องการอันเร่งด่วนในการใช้กระสุนปืนใหญ่ ดังนั้น พวกเราจึงตัดสินใจร่วมมือกับเดนมาร์กในการทำการบริจาคครั้งใหม่ เพื่อว่า ยูเครนจะได้รับกระสุนเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
และในวันพฤหัสบดี กองทัพยูเครนเปิดเผยว่า ฝ่ายตนสามารถสกัดขีปนาวุธร่อน 1 ลูกและโดรนระเบิด 20 ลำของรัสเซียได้สำเร็จ ขณะที่ เจ้าหน้าที่รัสเซียที่อยู่ในแคว้นไครเมีย กล่าวว่า ตนก็ยิงโดรน 9 ลำของยูเครนตกเช่นกัน
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์