ลิ้งค์เชื่อมต่อ

 
ทึ่ง !? คุณยายชาวอเมริกันวัย 80 ปี ทำงานที่นาซ่ามา 60 ปี ยังไม่คิดเกษียณ!

ทึ่ง !? คุณยายชาวอเมริกันวัย 80 ปี ทำงานที่นาซ่ามา 60 ปี ยังไม่คิดเกษียณ!


Sue Finley, 80, is still working at NASA's Jet Propulsion Laboratory in Pasadena, California. She started there in 1958 as a human "computer," calculating trajectories for rockets. (M O'Sullivan/VOA)
Sue Finley, 80, is still working at NASA's Jet Propulsion Laboratory in Pasadena, California. She started there in 1958 as a human "computer," calculating trajectories for rockets. (M O'Sullivan/VOA)

ที่สหรัฐฯ หญิงชาวอเมริกันอายุ 80 ปีคนหนึ่งกลายเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานมานานที่สุดในองค์การสำรวจอวกาศแห่งสหรัฐฯ หรือนาซ่า โดยเริ่มทำงานกับนาซ่าตั้งแต่องค์การนี้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2501

นาง Finley เริ่มทำงานที่องค์การสำรวจอวกาศเเห่งสหรัฐฯ ในหน้าที่ “คอมพิวเตอร์มนุษย์” หรือนักคณิตศาสตร์หญิงที่คำนวณหาความเร็วหลุดพ้นด้วยมือ ให้กับโครงการสำรวจอวกาศในโครงการเเรกๆ ของนาซ่า

เมื่อเวลาผ่านไป หน้าที่ของนักคณิตศาสตร์หญิงของนาซ่าเริ่มเปลี่ยนไปด้วยหลังจากเริ่มมีเครื่องมืออิเลคทรอนิคส์มาใช้ประกอบในการควบคุมการเดินทางของยานอวกาศให้ไปถึงจุดหมายปลายทาง

นาง Finley กล่าวว่า ทีมงานเริ่มมีเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วมาใช้ประกอบในการคำนวณ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตนเองใช้งานในตอนนั้นมีสายเคเบิล 16 เส้นที่ใช้ในการเขียนรหัส ส่วนอีกเครื่องหนึ่งมีแผ่นอัดรู 10 แผ่น ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม

เเละเมื่อคอมพิวเตอร์สมัยใหม่เข้ามาเเทนที่การทำงาน นาง Finley ได้เปลี่ยนหน้าที่ไปพัฒนาเเละทดสอบโปรแกรมซอฟท์เเวร์ในฐานะวิศวกรระบบย่อย

หนึ่งในโครงการที่น่าตื่นเต้นหลายโครงการในชีวิตการทำงาน คือโครงการเวกา (Vega mission) ที่สำรวจดาวศุกร์ด้วยบอลลูนสำรวจบรรยากาศ กับการสำรวจดาวหางฮัลเลย์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างโซเวียตกับฝรั่งเศส ซึ่งได้รับความช่วยเหลือด้านการการควบคุมยานอวกาศจากนาซ่า เเละสามารถปล่อยลูกบอลลูนตรวจบรรยากาศเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดาวศุกร์ได้สำเร็จ

ในโครงการเวกานี้ นาง Finley ต้องปรับเปลี่ยนโปรแกรมซอฟท์เเวร์ของจานสายอากาศที่ติดตามคอยเดินทางของยานอวกาศในโครงการ นาง Finley กล่าวว่า เมื่อโปรแกรมซอฟท์แวร์ทำงานได้ผล ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่วางแผน นั่นทำให้งานที่น่าตื่นเต้น

นาง Finley เริ่มทำงานในระบบสื่อสารด้วยจานสายอากาศ หรือ Deep Space Network ของนาซ่า ตั้งเเต่ปี ค.ศ. 1980 โดยเป็นเครือข่ายการทำงานร่วมกันระหว่างจานรับสัญญาณบนโลกสามแห่งด้วยกัน คือ ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ในสเปนเเละในออสเตรเลีย เพื่อช่วยให้นาซ่าสามารถสื่อสารกับยานสำรวจอวกาศได้

นอกจากนี้ ผลงานสำคัญอีกชิ้นหนึ่งของนาง Finley คือการพัฒนาซอฟท์แวร์ที่สร้างโทนเสียงที่บอกกับทีมวิศวกรบนโลกว่า กำลังเกิดอะไรขึ้นในห้วงอวกาศ

Stephen Lichten เพื่อนร่วมงานของนาง Finley อธิบายว่า โทนเสียงเเต่ละโทนมีความหมายที่สื่อสารข้อมูลกลับมายังโลก

นาย Lichten กล่าวว่า หากตัวร่มเปิดออก โทนเสียงจะกำเนิดขึ้นเเละส่งกลับมาบนโลก หากยานอวกาศปลดปล่อยแผ่นกันความร้อน ก็จะส่งโทนเสียงอีกโทนหนึ่งกลับมา เขากล่าวว่ามีวิศวกรอย่าง Sue Finley ที่สถานีจานรับสัญญานบนโลกที่คอยฟังคลื่นความถี่พิเศษเหล่านี้ ที่บอกกับทีมงานได้ว่ายานอวกาศลำใดเเจ้งข้อมูลว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้น

นาย Lichten เคยทำงานที่เดียวกันกับนาง Finley ในตอนที่เขาเริ่มทำงานที่ฐานปฏิบัติการจรวดขับเคลื่อนหรือ JPL เเละเขาบอกว่า นาง Finley เป็นเเรงบันดาลใจเเก่วิศวกรอายุน้อยอย่างตัวเขาเอง

นาย Lichten กล่าวว่า ในช่วงเริ่มเเรกของโครงการเวกาสำรวจดาวศุกร์ มีคนเข้ามาในที่ทำงานของนาง Finley อยู่ตลอดเวลา เพื่อขอคำเเนะนำเเละมีคำถามให้ช่วยตอบ ทำให้ตนเองเริ่มตระหนักว่านาง Sue Finley ได้รับการยอมรับว่าเป็นปรมาจารย์ที่ JPL

เขากล่าวว่านาง Finley มีส่วนเกี่ยวข้องมาตลอดในการพัฒนาการสื่อสารกับยานอวกาศที่ก้าวหน้าตลอดยุค 1950 เเละเธอยังเดินหน้าทำงานด้านนี้มาจนถึงปัจจุบัน

ทุกวันนี้ มีจำนวนผู้หญิงทำงานในนาซ่ามากขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับในตอนที่นาง Finley เริ่มทำงานที่นาซ่า เเละเธอบอกกับผู้หญิงทำงานอายุน้อย ว่าต้องเป็นคนใคร่รู้ ต้องไม่กลัวที่จะถามคำถาม ต้องไม่กลัวหากไม่รู้คำตอบ

หลังจากทำงานที่นาซ่ามานานเกือบหกสิบปี เป็นคุณเเม่ของลูกชายที่โตเป็นผู้ใหญ่เเล้วสองคน ตลอดจนเป็นอาจารย์พี่เลี้ยงของเพื่อนร่วมงาน นาง Finley ไม่มีเเผนเกษียณอายุ เธอกล่าวว่าไม่อยากทำอย่างอื่นอีกเเล้ว เเละนาซ่ายังต้องการเธอให้ทำงานต่อไป

ในสหรัฐฯ ไม่มีการกำหนดอายุเกษียณจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ราชการในหน่วยงานรัฐบาล รวมทั้งนาซ่า นาง Finley จึงสามารถทำงานได้ต่อไปจนกว่าจะเกษียณอายุเองด้วยความสมัครใจ

(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)

XS
SM
MD
LG