คณะกรรมการอิสระที่รัฐบาลเมียนมาแต่งตั้งขึ้น สรุปการศึกษากรณีเกี่ยวกับชาวโรฮีนจา ว่ามีเหตุผลให้เชื่อได้ว่าฝ่ายความมั่นคงเมียนมาก่ออาชญากรรมสงครามในปฏิบัติการที่ทำให้ชาวโรฮินจากว่า 700,000 คนต้องอพยพไปยังประเทศบังคลาเทศ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการที่มีนักการทูตฟิลิปปินส์เป็นประธาน ระบุว่า ไม่พบหลักฐานว่ามีการวางแผนหรือปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยกลุ่มนี้
รายงานของคณะกรรมการชุดนี้ถูกเปิดเผยก่อนการตัดสินใจวันพฤหัสบดีของศาลโลกว่าจะออกคำสั่งชั่วคราวเพื่อยับยั้งปฏิบัติการของทหารเมียนมาต่อชาวโรฮินจาหรือไม่ จนกว่าศาลจะตัดสินข้อกล่าวหาของประเทศแกมเบียที่ว่ารัฐบาลเมียนมาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮินจา
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ประเทศแกมเบียในภูมิภาคตะวันตกของทวีปแอฟริกา ยื่นฟ้องเมียนมาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) โดยกล่าวหาว่าเมียนมา "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ชาวมุสลิมโรฮินจา
ในการดำเนินคดีครั้งนี้ แกมเบีย ซึ่งมีประชากรจำนวนมากนับถือศาสนาอิสลาม ได้รับการสนับสนุนอย่างสมบูรณ์จากองค์การความร่วมมืออิสลาม (Organization for Islamic Cooperation) ที่มีสมาชิก 57 ประเทศ
การดำเนินคดีลักษณะนี้ผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหประชาชาติ อาจให้เวลาหลายปี แต่ศาลสามารถออกคำสั่งยับยั้งชั่วคราวเพื่อรอคำตัดสินคดีได้