บริษัท เอ็กซ์ (X) หรือที่เคยรู้จักกันในชื่อ ‘ทวิตเตอร์’ ขู่ฟ้องนักวิจัยอิสระกลุ่มหนึ่งที่เก็บรวบรวมข้อมูลซึ่งชี้ว่า มีการเพิ่มขึ้นของการใช้คำพูดที่ทำให้เกิดความเกลียดชัง (hate speech) เพิ่มขึ้นในแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์แห่งนี้ นับตั้งแต่อภิมหาเศรษฐี อิลอน มัสก์ ซื้อกิจการมาเป็นของตัวเองเมื่อปีที่แล้ว ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
ทนายความตัวแทนบริษัทสื่อสังคมออนไลน์แห่งนี้ส่งหนังสือถึง Center for Countering Digital Hate (CCDH) เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่มีเนื้อความขู่ที่จะดำเนินการทางกฎหมายต่อนักวิจัยกลุ่มนี้ เนื่องจากผลงานการศึกษาเรื่อง hate speech และการตรวจสอบเนื้อหาบนแพลตฟอร์มของตน
เอพีระบุว่า เนื้อหาในจดหมายนี้อ้างว่า รายงานของ CCDH ดูเหมือนจะตั้งใจให้ “สร้างความเสียหายให้กับธุรกิจทวิตเตอร์ จากการทำให้ผู้ลงโฆษณาถอยห่างออกไปจากแพลตฟอร์ม ด้วยการใช้คำกล่าวอ้างที่เป็นการใส่ความและยั่วยุ”
สื่อแห่งนี้ชี้ว่า ขณะที่ อิลอน มัสก์ พยายามเสนอตัวว่าเป็นผู้สนับสนุนเสรีภาพของการแสดงออกอย่างที่สุด ด้วยการอนุญาตให้ผู้ใช้งานที่ได้ชื่อว่าเป็นสมาชิกกลุ่มลัทธิที่เชื่อว่า คนผิวขาวเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีฐานะสูงส่งและเป็นเลิศกว่ากลุ่มเผ่าพันธุ์อื่น (white supremacist) รวมทั้ง กลุ่มที่ปฏิเสธผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020 ให้กลับมาใช้งานทวิตเตอร์ได้อีกครั้ง แต่เจ้าตัวนั้นกลับดูเป็นคนที่มีความอ่อนไหวต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ตนเองหรือบริษัทของตนไม่น้อย
ทั้งนี้ กลุ่ม CCDH เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่มีสำนักงานในสหรัฐฯ และอังกฤษ และเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับ hate speech รวมทั้งกรณีพฤติกรรมอันเป็นอันตรายหรือพฤติกรรมสุดโต่งต่าง ๆ ในสื่อสังคมออนไลน์ เช่น X และติ๊กตอก (TikTok) และเฟซบุ๊ก (Facebook) ออกมาเป็นประจำ
กลุ่มนักวิจัยนี้เคยตีพิมพ์รายงานหลายฉบับที่วิพากษ์วิจารณ์ความเป็นผู้นำของ มัสก์ โดยชี้ให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของการใช้ hate speech ต่อกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) และการสร้างบรรยากาศการใช้ข้อมูลเท็จ นับตั้งแต่อภิมหาเศรษฐีรายนี้ซื้อกิจการทวิตเตอร์มา
เอพีติดต่อไปยังทนายความของแพลตฟอร์มแห่งนี้และตัวทีมงานของ X เพื่อขอความเห็น แต่ไม่ได้รับการตอบกลับก่อนเผยแพร่รายงานข่าวนี้ในวันจันทร์
- ที่มา: เอพี
