สื่อสหรัฐฯสองฉบับรายงานว่า เจ้าหน้าที่บางคนที่ทำงานให้กับอัยการพิเศษโรเบิร์ต มูลเลอร์ในการตรวจสอบความเชื่องโยงของรัสเซียกับคณะหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์เห็นว่ารัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯสรุปเนื้อหาจากรายงานของนายมุลเลอร์ ไปในทางบวกต่อประธานาธิบดีทรัมป์มากเกินไป
New York Times และ Washington Post รายงานว่าข้อมูลในรายงานของนายมุลเลอร์ให้ร้ายต่อปธน.ทรัมป์มากกว่าที่ รมต.ยุติธรรมวิลเลียม บาร์ตีความ
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม นายบาร์ออกรายงาน ความยาว 4 หน้าเกี่ยวกับผลการตรวจสอบของนายมุลเลอร์ ในข้อกล่าวหาที่ว่าคณะหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ สมรู้ร่วมคิดกับรัสเซียเพื่อให้ทรัมป์ได้เปรียบในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ 3 ปีก่อน
รมต.บาร์สรุปว่า คณะทำงานของนายมุลเลอร์ไม่พบหลักฐานที่โดนัลด์ ทรัมป์ หรือคนในทีมหาเสียง สมคบคิดหรือร่วมมือกับรัสเซียและยังไม่พบว่ามีความพยายามขัดขวางกระบวนการยุติธรรมโดยประธานาธิบดีทรัมป์
ดังนั้นเขาและรมช.ร็อด โรเซ็นสไตน์ตัดสินใจว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอในการตั้งข้อหาโดนัลด์ ทรัมป์เรื่องการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้ รมต. บาร์กล่าวว่าตนไม่ได้ชำระล้างความผิดใดๆของ ปธน.ทรัมป์
อย่างไรก็ตาม สื่อ New York Times และ Washington Post อ้างแหล่งข่าวในคณะทำงานของนายมุลเลอร์ ซึ่งระบุว่า รมต.บาร์ ไม่แสดงผลของการตรวจสอบจากการทำงานของพวกตนอย่างครบถ้วนเพียงพอ
Washington Post รายงานว่าเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในการสืบสวนเห็นว่ามีหลักฐานที่น่ากังวลและมีนัยสำคัญเรื่องการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม
ส่วนในรายงานของ New York Times เจ้าหน้าที่กังวลว่าการสรุปของรมต.บาร์ว่าเป็นการให้สังคมรับรู้เบื้องแรกถึงข้อมูลจากการสืบสวน ซึ่งสาธารณชนอาจจะยึดกับข้อสรุปนั้นก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายงานขั้นสุดท้าย
ปธน.ทรัมป์ผู้ที่วิจารณ์การสืบสวนเรื่องรัสเซียตลอดมา ยังคงโจมตีเรื่องดังกล่าวในวันพฤหัสบดี
และโฆษกทำเนียบขาวซาราห์ แซนเดอร์ส กล่าวว่ารายงานข่าวของ Post และ Times เป็นการปล่อยข่าวของผู้ไม่แสดงตัวตน และน่าจะมาจากเจ้าหน้าที่สืบสวนของนายมุลเลอร์ที่ไม่พอใจกับงานของตน
ทั้งนี้ รมต.บาร์กล่าวว่าเตรียมที่จะเปิดเผยเนื้อหาของการสืบสวนโดยนายมุลเลอร์ในกลางเดือนเมษายน หลังจากที่เขาและเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมดึงข้อมูลที่อ่อนไหว เช่นคำให้การต่อคณะลูกขุนใหญ่ออกมาจากรายงานฉบับดังกล่าวเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายเดโมแครตในสภาเดินเกมรุกต่อเนื่องเพื่อกดดันปธน.ทรัมป์
เมื่อวันพุธ คณะกรรมาธิการฝ่ายตุลาการของสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเดโมแครตคุมเสียงข้างมากอยู่ลงมติอนุมัติให้ประธานคณะกรรมาธิการ นาย เจอร์โรล์ด แนดเลอร์ เรียกขอรายงานฉบับเต็มของนายมุลเลอร์พร้อมด้วยหลักฐานสนับสนุนต่างๆ
ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตตอบโต้โดยกล่าวว่า “คงไม่มีอะไรที่ทำให้เดโมแครตสุขใจได้ นี่คือการก่อกวนรังควาญประธานาธิบดีขั้นสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ”
นักการเมืองในสภา ทั้งฝ่ายเดโมแครตและรีพับลิกัน เรียกร้องให้มีการเปิดเผยรายงานฉบับเต็มของนายมุลเลอร์ ซึ่งรวมถึง ส.ว.คนสำคัญของรีพับลิกัน นายชาร์ลส์ การสซ์ลีย์ จากรัฐไอโอวาด้วย
แม้ว่า ปธน.ปรัมป์จะให้รมต.บาร์เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเปิดเผยรายงานฉบับเต็มของนายมุลเลอร์หรือไม่ แต่มีความเป็นไปได้ว่าผู้นำสหรัฐฯอาจใช้ “สิทธิพิเศษฝ่ายบริหาร” (executive privilege) เหนือการเปิดเผยข้อมูลบางตอนในรายงานของนายมุลเลอร์
ความเป็นไปได้ดังกล่าวอาจทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างทำเนียบขาวและฝ่ายเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งท้ายสุดอาจต้องให้ศาลสูงสหรัฐฯเป็นผู้ตัดสิน
คณะกรรมาธิการฝ่ายตุลาการยังอนุมัติให้นายแนดเลอร์ เรียกดูเอกสารและคำให้การของผู้ที่เคยทำงานให้กับโดนัลด์ ทรัมป์ เช่น นายสตีฟ แบนนอนที่เคยเป็นปรึกษาด้านการเมืองของผู้นำสหรัฐฯ และ อดีตทนายของทำเนียบขาว นายโดนัลด์ เม็คแกน
และถึงแม้ รมต.บาร์จะไม่ได้บอกว่าเขาประกาศความบริสุทธิ์ให้โดนัลด์ ทรัมป์ แต่ผู้นำสหรัฐฯก็ยังกล่าวอย่างเปิดเผยว่าเขาได้รับการชำระล้างความผิดทั้งปวงอย่างสมบูรณ์แล้ว