ในสหรัฐฯเพิ่งจะเปิดภาคเรียนกันมาหมาดๆ พ่อแม่ผู้ปกครองก็ส่งลูกหลานกลับเข้าชั้นเรียนหลังจากออกผจญภัยในหน้าร้อนกันมาจนเหนื่อยอ่อน เราได้มีโอกาสชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เล่าถึงชีวิตของเด็ก Grade 6 หรือชั้น ป. 6 บ้านเรา ที่ถูกจัดอยู่ในเรต R
เรียกได้ว่าเป็นหนังเด็กที่เด็กไม่มีสิทธิ์ได้ดู และยังยิ่งตอกย้ำคำกล่าวที่ว่า “ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน” กับภาพยนตร์เรื่อง Good Boys หนังที่เหล่านักแสดงนำเป็นเด็กชาย 3 คน หน้าตาจิ้มลิ้มไร้เดียงสา แต่แฝงมาด้วยเรื่องราวทะลึ่งปึงปังและความป่วนแสบซ่าที่คาดไม่ถึง
ภาพยนตร์ Good Boys เล่าถึงเรื่องวุ่นวายของกลุ่มเด็กชายชั้น ป.6 ดันทำโดรนของรักของหวงของพ่อตกไปอยู่ในมือของเพื่อนบ้านสาวสุดเซ็กซี่ ที่ไม่มีทีท่าว่าจะยอมคืนให้ง่ายๆ ทำให้พวกเขาต้องออกไปผจญภัยเพื่อช่วงชิงโดรนกลับคืนมา ตั้งแต่การโดดเรียน ขโมยของ ต่อรองกับขบวนการค้ายาเสพติด เสี่ยงถูกตำรวจจับ และยังต้องเติมเต็มความฝันวัยหวานด้วยการไปงานปาร์ตี้เพื่อให้ได้มีจูบแรกให้จดจำ
ด้วยความที่เป็นเรตอาร์ ผู้สร้างจึงจัดคำสบถและมุขใต้สะดือกันเต็มที่เต็มอารมณ์ ซึ่งอาจจะดูขำบ้างไม่ขำบ้าง ส่วนเรื่องความวุ่นวายนั้นยอมรับว่ามีความคิดสร้างสรรค์ดีว่าเด็กตัวแค่นี้จะสร้างความวุ่นวายได้แค่ไหนบ้าง
อีกอย่างที่หนังพยายามจะสร้างบรรยากาศเอาไว้ คือ การตามหาความฝัน มิตรภาพของเพื่อนในวัยเด็ก และจังหวะก้าวผ่านช่วงอายุของเด็กๆ ซึ่งเด็กอายุ 12 ปีในอเมริกาจะเรียกว่า tween ซึ่งมาจาก twelve มาผนวกกับ teen เด็กกลุ่มนี้จะถือว่าตัวเองเป็นช่วงอายุก่อนวัยรุ่น และมันเป็นเรื่องราวยิ่งใหญ่ในชีวิตของพวกเขาเลยทีเดียว และสิ่งรอบตัวพวกเขามีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของเด็กเหล่านี้มากพอสมควร เช่น การหย่าร้างของพ่อแม่ แต่ถือว่าบทเหล่านี้อ่อนแอมากเพราะส่วนใหญ่เน้นความตลกโปกฮาแบบไม่ลืมหูลืมตาเป็นหลัก
โดยสรุปแล้ว Good Boys เป็นหนังที่ลากเราไปนั่งขำกับมุกใต้สะดือล้วนๆ บวกกับเรื่องป่วนๆของเด็กประถม ซึ่งใครก็ชอบความฮากระจายระดับเรตอาร์ก็ไปหาชมกันได้ แต่ไม่ถึงกับห้ามพลาด
(วิจารณ์ภาพยนตร์โดยนีธิกาญจน์ กำลังวรรณ)
