นอกจากแฟรนไชส์หนังรถซิ่งสมัยใหม่อย่าง Fast&Furious แล้ว ในตลาดหนังฮอลีวู้ดอันกว้างใหญ่ก็แทบจะไม่ผลิตหนังเอาใจแฟนภาพยนตร์ที่รักรถซิ่งและความเร็วที่น่าดูกันสักเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่หนังจะแป้ก
แต่คราวนี้เป็นทีของ Ford v Ferrari ภาพยนตร์การแข่งขันรถในตำนาน เลอ ม็องส์ 24 ที่ขึ้นชื่อว่าโหดหินและเป็นเกมที่ดิบพอสมควร แถมยังได้ 2 นักแสดงหนุ่มมากฝีมือ ทั้ง แมต เดมอน และคริสเตียน เบล นักแสดงชายผู้ทุ่มเทสุดพลังให้กับหนังทุกเรื่อง ก็พอจะการันตีความสนุกได้ในระดับหนึ่ง
Ford v Ferrari หนังรถซิ่งอิงประวัติศาสตร์ในยุค 60 ว่าด้วยการแข่งรถระดับโลกในตำนาน เลอ ม็องส์ 24 เมื่อปี 1966 เมื่อค่ายรถยนต์ใหญ่ในอเมริกาอย่างฟอร์ด ที่ต้องงัดทุกกลเม็ดเพื่อสร้างรถแข่งที่จะสามารถเอาชนะเฟอร์รารี ยานยนต์เจ้ายักษ์ในอิตาลีให้ราบคาบในสนามนี้ให้จงได้ ร้อนถึง เคน ไมล์ส วิศวกรและนักขับรถซิ่งชาวอังกฤษ ต้องร่วมมือกับแคร์โรล เชลบี้ นักออกแบบรถของฟอร์ด ช่วยกันสร้างม้าเหล็ก GT40 Mark II บรรพบุรุษของรถซิ่ง Ford GT ในทุกวันนี้
เรื่องช่วงแรกอาจจะดูเอื่อยและปูมาค่อนข้างช้า เพื่อให้พอเข้าใจสถานการณ์ว่าฟอร์ดในยุคนั้นคือล้าหลังยานยนต์ระดับโลกไปมากหลังจากยุคสงครามโลก การถ่ายทอดจิตวิญญาณชอบแข่งขันชอบก่อสงคราม และความหัวรั้นของเฮนรี่ ฟอร์ด ที่ 2 ผู้ซึ่งถูกโจมตีอย่างหนักในยุคนั้นว่าผลาญมรดกจากบิดาผู้ล่วงลับเพื่อการแข่งรถครั้งนี้
ก่อนที่จะขยายช่วงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของแมต เดมอน ในบทของแคร์โรล เชลบี้ อดีตนักขับรถแข่งในเลอ ม็องส์ 24 และกลายมาเป็นนักออกแบบรถของฟอร์ด และคริสเตียน เบล ที่รับบทเป็น เคน ไมล์ส วิศวกรและนักขับรถซิ่งชาวอังกฤษ และได้เห็นเส้นทางแห่งการเรียนรู้ที่จะจูนเครื่องยนต์และปรับทัศนคติของทั้งคู่เข้าหากันไปตลอด เรื่องนี้ดีใจแทนเบล ที่ไม่ต้องพูดสำเนียงอเมริกันให้ลำบากแล้ว ทำให้เขาปลดล็อคการแสดงที่มีมติซับซ้อน ทั้งการต่อสู้เพื่อความฝันของตัวเอง เพื่อปากท้องของครอบครัว และเพื่อมิตรภาพได้อย่างน่าประทับใจ ส่วนแมต เดมอน นี่แสบสนิทสิทธิ์ส่ายหน้าแต่มีสเน่ห์มากในเรื่องนี้
ตัวบทหนังจิกกัดวัฒนธรรมองค์กรในอเมริกันได้เจ็บแสบ สไตล์ “ใช่ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับเจ้านาย” การชิงดีชิงเด่นในองค์กรที่โจมตีกันได้ทุกวิถีทาง และพนักงานที่ไม่เข้าถึงระดับผู้บริหารก็อย่าหวังจะได้คิดหรือทำอะไรที่แตกต่างจากที่เคยเป็น เพราะแทนที่ไมล์สและเชลบี้จะต้องต่อสู้กับเฟอร์รารี แท้จริงแล้วพวกเขากลับต้องรับมือกับเหล่าผู้บริหารฟอร์ดเขี้ยวลากดิน ที่อยู่สูงเสียจนไม่เคยเปลี่ยนน้ำมันเครื่องด้วยตัวเอง แต่ด้วยความดื้อแพ่งและเก่งกาจของไมล์ส บวกกับศิลปะการเจรจาขั้นเทพของเชลบี้ ต่างช่วยผลักดันและจูงมือกันไปถึงฝั่งฝันในเลอ ม็องส์ 24 ได้สำเร็จ
มาในช่วงแข่งรถ ยอมรับว่าสาวๆอาจจะเบื่อเพราะไม่ใช่แนว แถมในเรื่องนี้ก็ขยายขยี้ช่วงนี้มาเต็มที่ มีจังหวะบีบคั้นกดดันทุกช่วงเวลาให้ได้ลุ้นกันทุกโค้งสนามแข่ง การดำเนินภาพสวยและคลาสสิคบวกกับเสียงดนตรีประกอบและเสียงรถซิ่งนี่ยังติดหูตลอดหลังจากออกโรงมาแล้ว ซึ่งถือว่าสนุกในระดับหนึ่ง
โดยสรุปแล้ว Ford v Ferrari เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดสำหรับสายรถซิ่ง เพราะไม่ใช่หนังแข่งรถเท่านั้น แต่เป็นหนังการต่อสู้เพื่อความฝันที่ยิ่งใหญ่ของคนในทุกหย่อมหญ้า
(วิจารณ์ภาพยนตร์โดยนีธิกาญจน์ กำลังวรรณ)
