ภาพยนตร์ในยุคนี้เห็นจะโปรดปรานการทำภาคต่อ หรือ ภาคแยกในจักรวาลของภาพยนตร์อันน่าจดจำในอดีตกันบ่อยๆ ทั้ง Halloween ที่เพิ่งฉายภาค 11 เข้าไปแล้ว
และล่าสุดกับจักรวาลหนังกำปั้น Creed ซึ่งหยิบเอาชีวิตของทายาทของ Apollo Creed ตำนานของคู่ชกของ Rocky Balboa ที่ประสบความสำเร็จในภาคแรก จนมีเสียงเรียกร้องให้ทำต่อในภาค 2
Creed 2 เล่าถึงความท้าทายใหม่ของ Adonis Creed ทายาทของ Apollo Creed ที่คว้าเข็มขัดแชมป์มวยโลกมาหมาดๆ ต้องเจอกับคู่ปรับอย่าง Viktor Drago ลูกชายของ Ivan Drago คนที่ทำให้พ่อของเขาต้องสิ้นใจบนสังเวียนชกเมื่อสามสิบปีก่อน ท่ามกลางชีวิตที่เปลี่ยนผัน ทั้งการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวของตัวเอง โดยมีคู่หูต่างวัยอย่าง Rocky Balboa อยู่เคียงข้างในทุกย่างก้าวของชีวิต
หนังแฟรนไชส์ในตระกูล Rocky มีชื่อเข้าชิงออสการ์และรางวัลลูกโลกทองคำมาโดยตลอด แต่สำหรับ Creed ในภาคแรกส่งให้ Sylvester Stallone คว้ารางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากบท Rocky ที่โรยราไปตามกาลเวลาบวกกับโรคร้ายรุมเร้า อยากส่งเสริมลูกชายของนักชกร่วมรุ่นที่หมดลมหายใจในอ้อมอกของเขาเมื่อ 30 กว่าปีก่อน
แต่ Creed 2 ในภาคนี้มันไม่ค่อยมีความดราม่าระหว่าง Rocky และ D สักเท่าไหร่ แต่เป็นการส่งความดราม่าไปให้กับศึกล้างตาระหว่าง Adonis Creed กับ Viktor Drago และการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวของ Adonis เสียมากกว่า ยอมรับว่าเสียน้ำตาไปหลายฉากอยู่เหมือนกัน
ชอบการผูกเรื่องที่สร้างมุมของตระกูล Drago ให้เทาๆ พร้อมปมที่ดูแล้วอาจจะเกลียดไม่ลงได้ แต่ด้วยความแข็งและเคมีที่ส่งไม่ถึงกันระหว่างพ่อลูกตระกูล Drago ทำเอานั่งลุ้นในช่วงท้ายอยู่นานโขทีเดียว
สรุปแล้ว แฟนหนังจักรวาล Rocky คงหายคิดถึงหนังสังเวียนกำปั้นไปได้ บวกกับความดราม่าของไมเคิล บี. จอร์แดน ที่ดังเปรี้ยงปร้างมาจาก Black Panther
จึงเชื่อว่า Creed 2 จะยังอยู่ใน Box Office ได้อีกสักสัปดาห์ เพราะยังมีทัพหนังรางวัล และหนังที่น่าชมโค้งสุดท้ายปลายปีนั้นรอโค่นอันดับหนังทำเงินอยู่อีกคับคั่ง
(บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย นีธิกาญจน์ กำลังวรรณ)