เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 600 คน รวมทั้งกำลังเสริมจากหลายประเทศในยุโรป เข้าร่วมในปฏิบัติการดับไฟป่าในกรีซในวันอาทิตย์ โดยได้รับแรงหนุนจากฝูงเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์บรรทุกน้ำดับไฟ ขณะที่ไฟป่ายังคงเผาไหม้ลุกลามเป็นอาณาบริเวณกว้าง
เหตุการณ์ไฟป่าครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับประเทศใดประเทศหนึ่งในสหภาพยุโรป โดยคาดว่ามีไฟป่าทั้งหมดราว 120 จุด ทำลายพื้นที่เป็นบริเวณราว 770 ตารางกิโลเมตร จากการประเมินด้ายภาพถ่ายดาวเทียมของสำนักงานจัดการภาวะฉุกเฉินโคเปอร์นิคัส ของสหภาพยุโรป
รายงานข่าวระบุว่า ไฟป่าในกรีซขณะนี้แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกอยู่ในในเขตเอฟรอสและอเล็กซานดรูโพลิสทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เผาไหม้เป็นวันที่ 9 ติดต่อกัน คาดว่าทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 20 คน
ส่วนทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเอเธนส์ เกิดไฟป่าขนาดใหญ่อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งไหม้ติดต่อกันมาหลายวัน ทำลายบ้านเรือนจำนวนมากรวมทั้งพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เมาท์ ปาร์นิทา
กลุ่มที่สามเริ่มปะทุขึ้นเมื่อวันเสาร์บนเกาะอันโดรส และเผาไหม้ต่อเนื่องจนถึงวันอาทิตย์ คาดว่าเกิดจากฟ้าผ่าต้นไม้ในบริเวณนั้นจนเกิดไฟลุกไหม้ ส่วนสาเหตุของกลุ่มไฟป่าขนาดใหญ่สองกลุ่มแรกนั้นยังต้องมีการตรวจสอบต่อไป
เมื่อวันเสาร์ เจ้าหน้าที่กรีซจับกุมชายสองคนซึ่งถูกกล่าวหาว่าพยายามวางเพลิงเพื่อเผาหญ้าแห้งและพืชผักจนทำใหเกิดไฟป่า โดยตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางการกรีซได้จับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 163 คนในข้อหาที่เกี่ยวกับเหตุไฟไหม้ต่าง ๆ
ฤดูร้อนปีนี้ หลายประเทศทางภาคใต้ของยุโรปเผชิญกับสภาพอากาศแห้งแล้งและร้อนจัด ทำให้เกิดไฟป่าได้ง่าย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของอียูระบุว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟป่าในยุโรปบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้นด้วย
- ที่มา: เอพี