ประธานาธิบดีโจ ไบเดน พร้อม จิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ เดินทางเยือนเกาะเมาวี รัฐฮาวาย ในวันจันทร์ หลังสถานการณ์ไฟป่าที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศที่ปะทุขึ้นเมื่อเกือบ 2 สัปดาห์ก่อนเริ่มคลี่คลายลง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้นำสหรัฐฯ พร้อมภริยาเดินทางถึงเกาะเมาวี ในช่วงสายของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าที่กรุงวอชิงตัน 6 ชั่วโมง ก่อนจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ขึ้นตรวจสอบพื้นที่ของเกาะที่ถูกไฟป่าเผาจนมอดไหม้ไปหมด ขณะที่ ผู้สื่อข่าว วีโอเอ รายงานว่า ปธน.ไบเดนและภริยาเดินทางไปยังเมืองลาไฮนา ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่อายุหลายร้อยปีในช่วงเที่ยง เพื่อตรวจดูความเสียหายต่างด้วยตาตนเอง และพูดคุยกับผู้รอดชีวิต รวมทั้งรับฟังสรุปรายงานต่าง ๆ จากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและระดับรัฐ
หลังการเดินทางตรวจตราและเยี่ยมเยือนสถานที่เกิดภัยพิบัติแล้ว ปธน.ไบเดน ขึ้นแถลงข่าวกับสื่อมวลชนโดยระบุว่า “เรามุ่งเน้นไปสิ่งที่จะต้องทำต่อไป ก็คือ การฟื้นฟูในระยะยาว ... และเป็นการทำร่วมกัน” พร้อมกล่าวว่า ตนจะทำให้แน่ใจว่า “เราได้ยินเสียงของทุกคน” และให้ความเคารพต่อประเพณีพื้นถิ่นด้วย
รอยเตอร์ระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวกับผู้รอดชีวิตจากเหตุไฟป่าด้วยว่า “ชาวอเมริกันยืนอยู่เคียงข้างคุณ ... ตราบเท่าที่จะเป็นไป เราจะอยู่กับคุณ”
ก่อนหน้านั้น โอลิเวีย ดาลตัน โฆษกทำเนียบขาวบอกกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันว่า ปธน.ไบเดนจะยืนยันต่อทุกฝ่ายในระหว่างการเยือนเมาวีว่า ตนนั้นมีความเกี่ยวกับความกังวลต่อเหยื่อและผู้ประสบภัยนับตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุขึ้น รวมถึงความตั้งใจที่จะให้รัฐบาลให้ความช่วยเหลือแก่เมาวีจนกว่าทุกอย่างจะกลับคืนสู่สภาพปกติด้วย
ที่ผ่านมา สมาชิกพรรครีพับลิกันบางส่วนและหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ไบเดน เกี่ยวกับกรณีการรับมือสถานการณ์ไฟป่าบนเกาะเมาวีมากมาย เนื่องจาก ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้ออกมาให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับภัยพิบัติครั้งนี้เป็นเวลาหลายวัน ขณะที่กำลังพักผ่อนอยู่ที่บ้านพักริมหาดในรัฐเดลาแวร์ ก่อนที่จะออกมาประกาศเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมว่า ตนจะออกคำสั่งยืดระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือภาครัฐให้กับฮาวายและสัญญาที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ทุกฝ่าย
โฆษกดาลตัน บอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ไบเดนได้สั่งการให้หน่วยงาน “รัฐบาลทั้งหมด” ส่งความช่วยเหลือไปยังฮาวายเพื่อทำการฟื้นฟูและยังอนุมัติการประกาศให้ฮาวายเป็นพื้นที่ภัยพิบัติหลังได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ไม่ถึง 1 ชั่วโมง แต่ไม่ได้ต้องการจะเดินทางไปยังเกาะเมาวีทันที จนกว่าจะมั่นใจว่า การเยือนของตนจะไม่กระทบกระบวนการช่วยเหลือฉุกเฉินของเจ้าหน้าที่
จวบจนวันนี้ รายงานข่าวระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติครั้งรุนแรงนี้แล้วอย่างน้อย 114 คน ขณะที่ คาดกันว่า ตัวเลขที่แท้จริงจะพุ่งสูงกว่านี้มาก เนื่องจากยังมีผู้ที่ถูกระบุว่าสูญหายอยู่ 850 คน ตามข้อมูลที่นายกเทศมนตรีเมาวีเคาน์ตี้ ริชาร์ด บิสเซน ระบุในโพสต์ทางเฟซบุ๊กเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์
- ที่มา: รอยเตอร์และวีโอเอ