ผลการสำรวจใหม่ระบุว่า คนอเมริกันสมัยนี้ไม่กระตือรือร้นที่จะย้ายออกจากบ้าน และแต่งงานช้าลงกว่าแต่ก่อน คนรุ่นนี้มักจะเรียกกันว่า “millennials” หรือกลุ่มผู้มีอายุระหว่าง 18 ถึง 34 ปี ซึ่งผลสำรวจกล่าวว่าเกือบหนึ่งในสามยังอยู่กับบิดามารดาที่บ้าน
มีการเก็บตัวเลขในเรื่องนี้มาราวๆ 136 ปี หรือตั้งแต่ ค.ศ. 1880 แล้ว โดยศูนย์วิเคราะห์ Pew เป็นผู้วิเคราะห์ตัวเลขของปี ค.ศ. 2014 เปรียบเทียบกับของปี 1960 ช่วยให้เห็นความแตกต่างมากขึ้น
โดยในปี 1960 หรือราวๆ 54 ปีที่แล้ว มากกว่า 60% ของคนหนุ่มคนสาวในอเมริกา แต่งงานมีครอบครัวของตนเองกันแล้ว หรือไม่ก็ย้ายออกจากบ้านไปอยู่ร่วมกับผู้อื่น
แต่สัดส่วนนี้ลดลงมาอยู่ที่ 32% ตามตัวเลขของปี 2014
ขณะเดียวกัน อายุของผู้ที่แต่งงานครั้งแรกเพิ่มสูงขึ้นโดยทั่วไป หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานไว้ว่า อายุการแต่งงานครั้งแรกในปี 1960 สำหรับผู้หญิง 20 ปี และ 22 ปีสำหรับผู้ชาย แต่ตัวเลขปี 2014 ระบุว่า อายุการแต่งงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นเป็น 27 ปีสำหรับผู้หญิงและ 29 ปีสำหรับผู้ชาย
นักวิเคราะห์ของ Pew ยังประมาณการไว้ด้วยว่า เกือบหนึ่งในสี่ของ millennials จะไม่แต่งงานด้วยซ้ำไป และว่าแนวโน้มที่คนกลุ่มนี้อยู่บ้านกับบิดามารดาต่อไปนั้น เห็นได้ชัดมากในหมู่ผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ในหมู่ผู้ที่ไม่มีการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และในหมู่คนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา เชื้อสาย Hispanic และคนพื้นเมืองอเมริกัน และโดยเฉพาะในครอบครัวที่ไม่ร่ำรวย
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า พลังขับดันการเปลี่ยนแปลงนี้คือการเปลี่ยนแปลงในเรื่องอายุการแต่งงาน และผลกระทบเชิงลบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยของปี ค.ศ. 2008 และบอกว่าผลที่ตามมากระทบกระเทือนถึงระบบเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งอาจช่วยอธิบายปัญหาการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่ไม่ก้าวหน้ารวดเร็วอย่างที่คาดหวัง
เพราะเมื่อมีครอบครัวใหม่ๆ น้อยลง ความต้องการโดยเฉพาะความต้องการเครื่องใช้ในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้กระทั่งการซื้อบริการเคเบิลทีวี ก็น้อยลงตามไปด้วย