คุณ Jensen กล่าวว่าสมองของคนเราเป็นอวัยวะที่เติบโตช้าที่สุดในบรรดาอวัยวะต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ สมองคนเราเติบโตเต็มที่เมื่อคนเราเข้าสู่วัยยี่สิบต้นๆ
เธอบอกว่าหากสมองเป็นภาพจิกซอว์ สมองของเด็กวัยรุ่นจะเทียบได้กับจิกซอว์ที่ยังต่อไม่เสร็จ สมองของเด็กวัยรุ่นมีความแตกต่างไม่ว่าจะเป็นทางเคมีและทางโครงสร้าง มีลักษณะเหมือนกับสมองผู้ใหญ่ราว 80 เปอร์เซ็นต์ ทางด้านโครงสร้างและการทำงาน
ในหนังสือเล่มใหม่เรื่อง "The Teenage Brain: A Neuroscientist's Survival Guide to Raising Adolescents and Young Adults" คุณ Jensen อธิบายถึงจุดแข็งและจุดด้อยของสมองในระยะของการพัฒนาในช่วงวัยรุ่นนี้ เธอกล่าวว่าเด็กวัยรุ่นเรียนรู้ได้ดีกว่าผู้ใหญ่เพราะความแตกต่างของลักษณะการเชื่อมโยงในสมอง แต่ในขณะที่เด็กวัยรุ่นมีความสามารถสูงในการเรียนรู้ การเชื่อมโยงระหว่างสมองหลายๆส่วนของเด็กวัยรุ่นยังอยู่ระหว่างการพัฒนา
คุณ Jensen กล่าวว่าเซลล์สมองส่งสัญญาณต่อกันและกันตลอดเวลา เป็นการติดต่อสื่อสารภายในสมอง ในขั้นตอนนี้ จำเป็น ไขมันธรรมชาติที่เรียกว่า myelin ในสมองมีความสำคัญมาก แต่ต้องใช้เวลายี่สิบห้าปีในการพัฒนาจนเสร็จสมบูรณ์โดยเริ่มจากด้านหลังไปยังด้านหน้าของสมอง และสมองส่วนหน้าของคนเราเป็นส่วนสุดท้ายมนสมองคนเราที่พัฒนาอย่างเต็มที่
สมองส่วนหน้า (frontal lobes) มีหน้าที่เกี่ยวกับความคิดพิจารณา การควบคุมตนเองและความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น คุณ Jensen ชี้ว่าสมองของเด็กวัยรุ่นยังไม่สามารถทำหน้าที่ด้านนี้ได้อย่างเต็มที่
คุณ Jensen กล่าวว่าเด็กวัยรุ่นมีสมองที่มีประสิทธิภาพสูงในการเรียนรู้แต่ยังไม่สามารถควบคุมตนเองได้เต็มที่ คุณ Jensen กล่าวว่านี่ทำให้สารเสพติดและแอลกอฮอลล์มีผลเสียรุนแรงต่อสมองของเด็กวัยรุ่นมากกว่าสมองของผู้ใหญ่
คุณ Jensen กล่าวว่า ระดับไอคิวของเด็กวัยรุ่นจะเปลี่ยนแปลงขึ้นและลงระหว่างอายุ 13 และ 17 ปี และยังไม่รู้แน่ชัดว่าอะไรทำให้ระดับไอคิวขึ้นและลง แต่เชื่อว่าการสูบกัญชาติดต่อกันเป็นเวลานานเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ระดับไอคิวลดลง ยิ่งสูบกัญชามากเท่าใด ไอคิวก็จะลดลงมากขึ้นเท่านั้นในช่วงวัยรุ่นตอนต้นนี้
นอกจากนี้ เพศยังมีผลต่อพัฒนาการของสมองด้วย คุณ Jensen กล่าวว่าส่วนของสมองที่มีหน้าที่ประมวลข้อมูลจะขยายตัวมากในช่วงวัยเด็กและจะเริ่มลดขนาดลง สำหรับเด็กหญิง ช่วงที่ขยายตัวสูงสุดของสมองส่วนนี้อยู่ในช่วงอายุ 12-14 ปี ในขณะที่จะล่าช้าไปสองปีในเด็กผู้ชาย
และในขณะที่การนอนมีความสำคัญแก่การเรียนรู้และความจำ เด็กวัยรุ่นทั้งชายและหญิงมักจะนอนไม่เพียงพอ เมื่อเด็กวัยรุ่นเข้านอนดึกและตื่นสายในวันต่อมา พ่อแม่มักคิดว่านั่นเป็นเพราะเด็กวัยรุ่นขี้เกียจ คุณ Jensen กล่าวว่านี่เป็นความเชื่อที่ผิดอย่างหนึ่ง เธอกล่าวว่านาฬิกาชีวิตของเด็กวัยรุ่นถูกกำหนดให้นอนดึกและตื่นสายกว่าผู้ใหญ่อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง
คุณ Jensen กล่าวว่า ข้อมูลใหม่ๆ ที่ได้จากการศึกษานี้จะช่วยให้ผู้ใหญ่ทำหน้าที่ของตนในฐานะครูและพ่อแม่ได้ดีขึ้น เธอแนะนำว่าพ่อแม่และครูต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเด็กวัยรุ่นและมีความอดทนมากขึ้น
คุณ Frances Jensen นักประสาทวิทยายังเร่งเร้าให้บรรดาพ่อแม่แบ่งปันข้อมูลจากการศึกาานี้กับลูกวัยรุ่นของตนเพื่อช่วยให้เด็กวัยรุ่นเข้าใจตนเองมากขึ้นและสามารถผ่านพ้นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตไปได้อย่างราบรื่น
