ผู้เชี่ยวชาญหลายคนชี้ว่ามีคนทั่วโลกเกือบ 300 ล้านคนที่ต้องใช้ยาต้านมาลาเรีย แม้ว่าแพทย์เพียงจะสงสัยเท่านั้นว่าพวกเขาอาจจะติดเชื้อมาลาเรีย
แต่ขณะนี้ อุปกรณ์ตรวจวัดลมหายใจที่ราคาไม่แพง กำลังได้รับการพัฒนาโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Washington University ในเมือง St. Louis รัฐ Missouri
และอาจจะกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยแพทย์ระบุได้ชัดเจนว่าผู้ป่วยติดเชื้อมาลาเรียจริงๆ และต้องได้รับการบำบัดด้วยยาต้านมาลาเรีย
คุณ Audrey Odom แห่งมหาวิทยาลัย Washington University ในเมือง St. Louis กล่าวว่า อุปกรณ์นี้จะกลายเป็นเครื่องมือที่ทนทานและเหมาะสมกับการใช้งานภาคสนามในพื้นที่ที่ขาดแคลนอุปกรณ์ และใช้งานง่ายมาก ใครๆ ก็ใช้ได้โดยไม่จำเป็นต้องฝึกอบรม
อุปกรณ์วิเคราะห์ลมหายใจนี้สามารถตรวจวัดสารต่างๆ ที่มาจากเชื้อมาลาเรียได้ไม่นานหลังจากที่ร่างกายได้รับเชื้อ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว
ผลการทดสอบเครื่องวิเคราะห์ลมหายใจเพื่อตรวจหาเชื้อมาลาเรียนี้ในประเทศมาลาวี ได้ผลถูกต้องถึง 100 เปอร์เซ็นต์
ในขณะเดียวกัน เครื่องตรวจลมหายใจเพื่อตรวจหามะเร็งปอดซึ่งได้รับการพัฒนามานานหลายปีแล้ว ยิ่งมีขนาดเล็กลงมาเรื่อยๆ และมีความเเม่นยำมากขึ้น
คุณ Billy Boyle ซีอีโอแห่ง Owlstone Medical กล่าวว่า เทคโนโลยีไมโครชิพช่วยให้สามารถพัฒนาขนาดของอุปกรณ์นี้ได้เล็กลงได้อย่างมาก จากที่มีขนาดใหญ่เทอะทะให้มีขนาดเล็กเท่ากับขนาดของกระดุมเสื้อ
การตรวจพบมะเร็งปอดเเต่เนิ่นๆ ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วย อุปกรณ์ตรวจลมหายใจหามะเร็งปอดนี้มีประสิทธิภาพในการตรวจหาสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งปอดได้อย่างดี แม้จะมีปริมาณเพียงน้อยนิดในลมหายใจก็ตาม
ทีมนักวิจัยผู้พัฒนากล่าวว่า ใครก็ใช้อุปกรณ์นี้ได้ ไม่เฉพาะแพทย์เท่านั้น อุปกรณ์ตรวจหามะเร็งปอดผ่านทางลมหายใจนี้ กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบทางคลีนิคในโรงพยาบาล 17 แห่งในอังกฤษ เเละคาดว่าจะนำออกมาวางตลาดได้ในปีค.ศ. 2017
นอกจากนี้ ทีมนักวิทยาศาสตร์กำลังอยู่ระหว่างการค้นคว้าพัฒนาอุปกรณ์ตรวจลมหายใจ ที่จะใช้ในการตรวจหาเชื้อปอดบวมและเชื้อวัณโรคอีกด้วย
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน )