คณะกรรมการจัดการเลือกตั้งของมาเลเซีย เปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า การเลือกตั้งทั่วไปจะมีขึ้นในวันที่ 19 พฤศจิกายน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะฝนตกหนักและน้ำท่วมใหญ่ในฤดูมรสุมช่วงสิ้นปีที่อาจทำให้ยับยั้งไม่ให้ผู้ใช้สิทธิ์ออกมาลงคะแนน
นายกรัฐมนตรีอิซมาอิล ซาบรี ยาคบ ประกาศยุบสภาไปเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมเพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้งเร็วขึ้น โดยไม่สนใจการทัดทานต่าง ๆ จากพันธมิตรในรัฐบาลรวมทั้งฝ่ายค้าน ที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดการเลือกตั้งในช่วงฤดูมรสุม
วาระของรัฐสภาชุดปัจจุบันมีกำหนดจบลงในเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2023 แต่องค์การมลายูรวมแห่งชาติ (United Malays National Organization – UMNO) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่ของมาเลเซีย มีปัญหาทะเลาะขัดแย้งกับพันธมิตรอื่น ๆ ในรัฐบาลผสม ทั้งยังมีความเชื่อด้วยว่า ยิ่งจัดการเลือกตั้งเร็วขึ้นเท่าใด พรรคของตนยิ่งมีโอกาสชนะมากขึ้นเท่านั้นด้วย
รายงานข่าวระบุว่า พรรค UMNO กำลังตั้งความหวังที่จะกวาดที่นั่งได้มากด้วยตนเอง จากแรงสนับสนุนของชนพื้นเมืองชาวมาเลย์ ในช่วงที่ฝ่ายค้านแตกเป็นก๊กเป็นเหล่าอยู่นี้ ก่อนที่สภาพเศรษฐกิจของประเทศจะอ่อนตัวในปีหน้า ดังที่มีหลายฝ่ายคาดไว้
พรรค UMNO เป็นพรรครัฐบาลปกครองประเทศมาตั้งแต่เมื่อประกาศอิสรภาพจากอังกฤษในปี ค.ศ. 1957 แต่ยุคของรัฐบาลผสมกลับตกอยู่ในสภาพมีปัญหาหนัก หลังมีการเปิดเผยข่าวฉาวเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งปี ค.ศ. 2018 ที่เกี่ยวข้องกับเม็ดเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ในเวลานั้นต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 12 ปี และ อาห์หมัด ซาฮิด ฮามิดิ ผู้นำพรรคคนปัจจุบันต้องขึ้นศาลเป็นจำเลยในข้อหาทุจริตด้วย
จากนั้น รัฐบาลชุดปฏิรูปที่นำโดยอดีตนายกรัฐมนตรีมหาธีร์ โมฮัมหมัด รับหน้าที่บริหารประเทศต่อ แต่ก็อยู่ได้ไม่ถึง 2 ปี หลังมีพรรคการเมืองแปรพักตร์ ซึ่งทำให้พรรค UMNO กลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง โดย นายกรัฐมนตรีอิซมาอิล ที่ได้รับการแต่งตั้งจากกษัตริย์มาเลเซียเมื่อเดือนสิงหาคมของปีที่แล้ว เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของประเทศในรอบ 4 ปี
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ประเมินว่า น่าจะมีการตั้งพันธมิตรรัฐบาลผสมสูตรใหม่หลังการเลือกตั้งวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้
ในรัฐบาลที่เพิ่งยุบสภาไป พรรค UMNO มี ส.ส.อยู่ไม่ถึง 40 คน จากจำนวนสมาชิกสภาทั้งหมด 220 คน และนักวิเคราะห์เชื่อว่า พรรคนี้ไม่น่าจะได้เสียงข้างมากเพื่อเป็นรัฐบาลพรรคเดียวดังหวังได้
ทั้งนี้ อับดุล กานี ซัลเละห์ ประธานคณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง กล่าวว่า ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งจะเสนอชื่อเข้ามาได้ในวันที่ 5 พฤศจิกายน ก่อนจะเริ่มการหาเสียงเป็นเวลา 2 สัปดาห์ พร้อมชี้ว่า ในครั้งนี้ มีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทั่วประเทศอยู่ 21.17 ล้านคน
- ที่มา: เอพี
