พรรคการเมืองเก่าแก่ของมาเลเซีย United Malays National Organization (UMNO) หรือ พรรคอัมโน เตรียมขึ้นบริหารประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี และคาดว่านายอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ รองประธานพรรคอัมโน จะเป็นตัวเต็งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซียด้วย
นายอิสมาอิล วัย 61 ปี ได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกส่วนใหญ่ของพรรคอัมโนและอดีตพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ๆ โดยบรรดาสมาชิกพรรคอัมโนถูกเรียกตัวเข้าเฝ้าสมเด็จราชาธิบดี สุลต่าน อับดุลลาห์ สุลต่าน อาห์หมัด ชาห์ เพื่อยืนยันการสนับสนุนนายอิสมาอิล ในวันพฤหัสบดี
สื่อในมาเลเซียรายงานว่า อิสมาอิลน่าจะได้รับเสียงสนับสนุน 114 เสียง ซึ่งเกินจำนวน 111 เสียงที่ต้องการสำหรับการครองเสียงส่วนใหญ่ในสภา
พรรคอัมโนปกครองมาเลเซียมาตั้งแต่การประกาศอิสรภาพจากอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1957 ก่อนที่จะพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2018 เพราะข่าวอื้อฉาวเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน
หากนายอิสมาอิลได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะเป็นการนำพรรคร่วมรัฐบาลชุดเดิมกลับคืนสู่การบริหารประเทศอีกครั้ง หลังจากที่เกิดความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรับบาลจนนำไปสู่การลาออกของนายมูห์ยิดดิน ยัสซิน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ในช่วง 17 เดือนที่อยู่ในตำแหน่ง นายมูห์ยิดดินต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ตั้งแต่ปัญหาพรรคร่วมรัฐบาลที่เปราะบาง และการถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องการรับมือการระบาดของโควิด-19 โดยมาเลเซียคือหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิดมากที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่านายอิสมาอิลอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนักสำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เนื่องจากเขามีความเกี่ยวพันกับรัฐบาลชุดเดิมของนายมูห์ยิดดิน ในขณะที่เสถียรภาพของรัฐบาลชุดใหม่ก็ยังคงสั่นคลอนเช่นเดิม
ยี ซุน โอ นักวิชาการอาวุโสที่ Singapore Institute of International Affairs กล่าวว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในการเมืองมาเลเซียขณะนี้ไม่ต่างจากการเล่นเก้าอี้ดนตรี คือการเปลี่ยนมือจากพรรคเบอร์ซาตูของนายมูห์ยิดดินไปเป็นพรรคอัมโนของนายอิสมาอิล
นักวิชาการผู้นี้เชื่อว่า โฉมหน้าของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ก็คงไม่ต่างไปจากเดิมมากนัก เช่นเดียวกับนโยบายต่าง ๆ ที่ยังคงเหมือนเดิม ทั้งในเรื่องของการรับมือการระบาดและการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ได้ผล