ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกมีมากกว่า 7 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 4 แสนคนในขณะนี้ รายงานการศึกษาของมหาวิทยาลัย Imperial College of London พบว่า มาตรการล็อคดาวน์ที่ใช้ใน 11 ประเทศซึ่งล้วนแต่อยู่ในทวีปยุโรป เช่น เบลเยียม อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสเปน รวมทั้งการสั่งปิดธุรกิจที่ไม่สำคัญและโรงเรียนนั้น สามารถช่วยป้องกันไม่ให้มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้ถึงราว 3 ล้านราย
ส่วนรายงานอีกชิ้นหนึ่งซึ่งทำในสหรัฐ ก็พบว่า มาตรการล็อคดาวน์ซึ่งนำมาใช้ในประเทศจีน เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน ฝรั่งเศส และสหรัฐ ได้ช่วยป้องกันและชะลอการติดเชื้อโควิด-19 ของผู้คนได้ถึงราว 530 ล้านคน เช่นกัน
ขณะนี้สหรัฐเป็นประเทศที่มีจำนวนทั้งผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากที่สุดของโลก คือเสียชีวิตไปแล้วราว 1 แสน 1 หมื่น 3 พันคนจากจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 2 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ในแง่อัตราการเสียชีวิตต่อประชากรแล้ว สหรัฐมาเป็นอันดับแปดของโลก รองจากหลายประเทศในทวีปยุโรป
ตัวเลขการติดเชื้อและการเสียชีวิตซึ่งสามารถป้องกันได้จากมาตรการล็อคดาวน์นี้ มีขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในสหรัฐกำลังเรียกร้องให้ผู้ร่วมการประท้วงทั่วประเทศสวมหน้ากากป้องกันและไปรับการตรวจหาเชื้อโดยเร็ว
ส่วนที่นครนิวยอร์ก ในวันจันทร์มีการเริ่มมาตรการผ่อนคลายการล็อคดาวน์ในระยะที่หนึ่ง ด้วยการอนุญาตให้ผู้คนราว 4 แสนคนกลับไปทำงานได้ และหลายคนจะกลับไปใช้ระบบรถไฟใต้ดินของมหานครนิวยอร์กเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสามเดือนด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้คนงานก่อสร้าง คนทำงานในโรงงานการผลิต และในธุรกิจขายปลีกบางส่วน จะสามารถกลับไปทำงานได้ก็ตาม แต่ร้านอาหารหลายพันแห่งในนครนิวยอร์กยังคงต้องปิดตัวอยู่ต่อไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นเดือนนี้
และถึงแม้ผู้บริหารของนครนิวยอร์กจะมีความมั่นใจมากพอเรื่องการกลับมาเปิดเศรษฐกิจบางส่วนก็ตาม แต่ที่รัฐฟลอริดา ทางใต้ของสหรัฐ กลับมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นเกิน 1,000 คนต่อวันเป็นวันที่ห้าติดต่อกัน เนื่องจากผู้คนเริ่มไม่สนใจเกี่ยวกับมาตรการสร้างระยะห่างรวมทั้งจากการชุมนุมประท้วงในรัฐนี้ด้วย
เมื่อวันอาทิตย์ วุฒิสมาชิก ริค สก็อต ของพรรครีพับลิกัน จากรัฐฟลอริดา ได้กล่าวอ้างว่า จีนกำลังพยายามบ่อนทำลายการพัฒนาวัคซีนของสหรัฐ โดยวุฒิสมาชิก ริค สก็อตในฐานะสมาชิกคณะกรรมาธิการกิจการทหารของวุฒิสภาสหรัฐ อ้างว่า ตนมีข้อมูลข่าวกรองเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้นำหลักฐานใด ๆ มายืนยัน เพียงแต่กล่าวว่า จีนคงจะไม่ดีใจหากสหรัฐหรืออังกฤษสามารถพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ได้ก่อนใคร