นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ลิซ ทรัสส์ เปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า ตนได้ลาออกจากตำแหน่งผู้นำรัฐบาลซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งมาเพียง 6 สัปดาห์ โดยการประกาศลาออกของผู้นำอังกฤษคนปัจจุบันมีออกมา หลังประเด็นโครงการเศรษฐกิจที่เธอนำเสนอส่งแรงกระแทกหนักไปทั่วตลาดการเงินเมื่อเดือนที่แล้ว ทั้งยังทำให้เกิดความแตกแยกหนักภายในพรรคอนุรักษ์นิยมของเธอด้วย ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
นายกฯ ทรัสส์ ประกาศการลาออกที่หน้าบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง ซึ่งเป็นสำนักงานและทำเนียบนายกรัฐมนตรี โดยเธอยอมรับว่า ไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้เมื่อลงชิงตำแหน่งผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยม จนทำให้สมาชิกพรรคหมดศรัทธาในตัวเธอ
รายงานข่าวระบุว่า พรรครัฐบาลอังกฤษจะทำการเลือกผู้นำคนใหม่ภายในสัปดาห์เพื่อมาแทนที่ ทรัสส์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น นายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ โดยผู้ที่ครองตำแหน่งผู้นำอังกฤษสั้นที่สุดก่อนหน้านี้คือ จอร์จ แคนนิง (George Canning) ที่เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นเวลา 119 วันในปี ค.ศ. 1827 ก่อนจะถึงอสัญกรรม
ทรัสส์ กล่าวระหว่างการแถลงลาออกว่า “ดิฉันทราบดีว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ดิฉันไม่สามารถทำตามอาณัติตามที่ให้ไว้เมื่อได้รับเลือกจากพรรคอนุรักษ์นิยมได้ ดิฉันจึงได้กราบทูลต่อสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แล้วว่า ดิฉันขอลาออกจากตำแหน่งผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยม”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัสส์ เพิ่งสั่งปลด ควาซี ควอร์เทง รัฐมนตรีคลังที่เธอแต่งตั้งและพันธมิตรการเมืองที่ใกล้ชิดที่สุดของเธอ และต้องยกเลิกแผนงานด้านเศรษฐกิจเกือบทุกรายการที่เธอนำเสนอ หลังแผนการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ทำค่าเงินปอนด์และพันธบัตรอังกฤษล้มระเนระนาดไป ขณะที่ ความนิยมในตัวเธอและพรรคอนุรักษ์นิยมก็ตกฮวบไปด้วย
เส้นทางเมืองของ ทรัสส์ ยิ่งย่ำแย่หนักลงอีกในวันอังคาร เมื่อ ซุเอลลา เบรเวอร์แมน รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายใน ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ตำแหน่งรัฐมนตรีที่อาวุโสที่สุดของรัฐบาลอังกฤษ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง และ ทรัสส์ ยังต้องเผชิญกับเสียงหัวเราะเยาะมากมาย ขณะที่ พยายามอธิบายเพื่อปกป้องจุดยืนของเธอในระหว่างเข้าร่วมการประชุมรัฐสภา โดยมีสมาชิกจากพรรคอนุรักษ์นิยมออกโรงทะเลาะเรื่องนโยบายของเธอกันยกใหญ่ อันเป็นการส่งกระแสความโกลาหลภายในรัฐบาลไปทั่วรัรฐสภา
ขณะเดียวกัน รายงานข่าวระบุว่า เจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีคลังคนใหม่ กำลังเร่งหาเงินหลายหมื่นล้านปอนด์จากแผนลดค่าจ่ายต่าง ๆ มาช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน และเพื่อฟื้นฟูชื่อเสียงด้านนโยบายการคลังของอังกฤษอย่างเร่งด่วน ในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังเดินหน้าเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยมีอัตราเงินเฟ้อพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีอยู่
ที่สหรัฐฯ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกแถลงการณ์กรณีการลาออกจากตำแหน่งของนายกฯ ทรัสส์ โดยระบุว่า “สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรเป็นพันธมิตรอันเข้มแข็งและเป็นมิตรกันมายาวนาน และความจริงในเรื่องนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ผมขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ สำหรับการเป็นหุ้นส่วนในหลายด้าน อันรวมถึงการทำให้รัสเซียรับผิดชอบต่อการทำสงครามในยูเครน เราจะยังคงเดินหน้าความร่วมมืออันใกล้ชิดกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรต่อไป และทำงานร่วมกันเพื่อรับมือกับความท้าทายจากทั่วโลกที่ประเทศของเราเผชิญต่อไป”
- ที่มา: รอยเตอร์