ผู้เชี่ยวชาญด้านการลักลอบค้าเด็กเเห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น เรียกร้องให้รัฐบาลลาวช่วยเหลือทางสวัสดิการสังคมเเก่เด็กที่เป็นเหยื่อของการลักลอบค้ามนุษย์ เเละเพิ่มความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อต่อต้านปัญหานี้
โมด เดอ โบเออร์-บูควิกคีโอ (Maud De Boer-Buquicchio) ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าเเละการเอาเปรียบเด็กทางเพศ ได้ออกคำเรียกร้องนี้หลังจากการเดินทางไปดูงานที่ประเทศลาว ในช่วงที่ลาวกำลังเพิ่มความพยายามทางกฏหมายและมีการรณรงค์ต่อต้านการละเมิดทางเพศเด็กเเละการลักลอบค้าเด็ก
เดอ โบเออร์-บูควิกคีโอ เห็นด้วยกับแผนงานของกระทรวงเเรงงานเเละสวัสดิการสังคมของลาว ในการพัฒนาเครือข่ายพิทักษ์เด็กในหมู่บ้านเละอำเภอ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโครงการกองทุนเพื่อเด็กเเห่งสหประชาชาติ (UN's Children's' Fund) หรือ UNICEF กับหน่วยงานพัฒนาเอกชนต่างๆ เเต่เธอกล่าวว่า งานด้านนี้ยังไม่ครอบคลุมทั่วถึง เเละยังเป็นระบบอาสาสมัครเท่านั้น
เธอเรียกร้องให้มีการเพิ่มความพยายามให้มากขึ้นกว่านี้ ในการเฝ้าระวังเเละป้องกันการเอารัดเอาเปรียบทางเพศกับเด็กหญิง เเละการใช้เเรงงานเด็กชาย
เดอ โบเออร์-บูควิกคีโอ กล่าวว่า จากการสัมภาษณ์เหยื่อเเละผู้เกี่ยวข้องกับการปกป้องเด็กเเละผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ตนบอกได้ว่ายังมีปัญหาอีกมากมายในทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการลักลอบค้าเด็ก
ลาวยังคงเป็นหนึ่งในรายชื่อประเทศที่สหรัฐฯ จับตามอง ในประเด็นการเฝ้าระวังเเละต่อต้านการลักลอบค้ามนุษย์ เเละเเม้ว่าลาวยังไม่ผ่านข้อกำหนดมาตรฐานในการกำจัดการลักลอบค้ามนุษย์ แต่ลาวมีความคืบหน้าที่สำคัญหลายอย่างในการพยายามเเก้ปัญหานี้
ทางรัฐบาลลาวไม่เเสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อรายงานนี้ เเต่รายงานการลักลอบค้ามนุษย์ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯปี 2017 ที่ชี้ถึงความพยายามของลาวในการนำกฏหมายไปบังคับใช้ ไม่ว่าจะเป็นการผ่านกฏหมายต่อต้านการลักลอบค้ามนุษย์ในปี 2015 เเละมีการจับกุมเเละลงโทษผู้ลักลอบค้าเด็กหลายคน
รายงานนี้ชี้ว่า ลาวได้เพิ่มความสำคัญเเก่งานป้องกันด้วยการส่งเสริมความตื่นตัวด้านการต่อต้านการลักลอบค้ามนุษย์ การรณรงค์เเละเผยเเพร่ข้อมูลผ่านสื่อมวลชนที่ควบคุมโดยรัฐบาล
บรรดาผู้เรียกร้องด้านสิทธิ์เด็ก กล่าวว่า ลาวเป็นเเหล่งสำคัญของการลักลอบค้าเด็ก โดยเฉพาะการลักลอบนำเด็กเข้าไปในประเทศไทย เพื่อทำงานในร้านอาหาร บาร์ เเละในธุรกิจค้าประเวณีเด็ก
เดอ โบเออร์-บูควิกคีโอ กล่าวว่า การเข้าไปหาข้อมูลในลาวครั้งนี้่ ยังพบด้วยว่ามีการเอารัดเอาเปรียบเด็กผ่านเครือข่ายลักลอบค้าเด็กภายในลาวเอง เเละการค้าประเวณีเด็กในบรรดาเมืองใหญ่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษต่างๆ ทั่วประเทศลาว
เขตเศรษฐกิจพิเศษของลาวช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน โดยในพื้นที่ต่างๆ ในลาวที่ใกล้กับชายเเดนจีน มักจะขึ้นชื่อในเรื่องของบ่อนคาสิโน การฟอกเงิน การค้าประเวณี เเละการพนัน
เดอ โบเออร์-บูควิกคีโอ ผู้เชี่ยวชาญแห่งยูเอ็น กล่าวว่า เด็กหญิงชาวลาวกลายเป็นเเหล่งเจ้าสาวเด็กของบรรดานักธุรกิจชาวจีนในลาว เธอกล่าวว่าเมื่อพูดถึงประเด็นการลักลอบค้าเด็กข้ามชายเเดน เราต้องตระหนักด้วยว่าในหลายกรณี เป็นเรื่องของการบังคับให้เด็กเเต่งงานทั้งที่ครอบครัวรับรู้เเละไม่รับรู้ โดยเฉพาะการเเต่งงานกับนักธุรกิจชาวจีนที่มักเกิดขึ้นในพื้นที่ทางเหนือประเทศลาว
เดอ โบเออร์-บูควิกคีโอ กล่าวว่า เด็กอายุเพียง 11 ปีจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของการลักลอบค้ามนุษย์ เเละถูกบังคับเเต่งงานก่อนวัย ซึ่งเป็นเเนวโน้มที่น่ากังวล เพราะเด็กที่ตกเป็นเหยื่อมีอายุน้อยลงกว่าในอดีต
รายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เกี่ยวกับการลักลอบค้ามนุษย์ยังเตือนด้วยว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติจากอังกฤษ ออสเตรเลีย เเละสหรัฐฯ ที่เดินทางไปลาวเพื่อใช้บริการการค้าประเวณีเด็ก
การลักลอบค้าเด็กจากลาวมีเป้าหมายที่ประเทศไทยเป็นหลัก เนื่องจากเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดทางวัฒนธรรม
ประเทศไทยกับลาวได้ร่วมมือกันหาทางแก้ปัญหานี้มานานเเล้ว ผ่านข้อตกลงทวิภาคีระหว่างรัฐบาล เเละบันทึกความเข้าใจไทย-ลาว แต่มาตรการเหล่านี้ยังไม่ได้ผลอย่างที่ตั้งใจ ยังขาดการนำไปบังคับใช้ เเละยังขาดประสิทธิภาพในการป้องกันเเละในการให้ความช่วยเหลือเหยื่อ
ในการเจรจาทวิภาคีกับไทยเกี่ยวกับการลักลอบค้ามนุษย์ในเดือนกรกฏาคม กระทรวงเเรงงานเเละสวัสดิการสังคมของลาวได้สัญญาว่า จะติดตามดูเหยื่อการลักลอบค้ามนุษย์กลุ่มที่ถูกส่งตัวกลับลาว เพื่อช่วยเหลือให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้เป็นปกติกับครอบครัวเเละในสังคมลาว
(เรียบเรียงทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)