สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเป็นประธานในพิธีมิสซาเนื่องในวันอีสเตอร์ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม ที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ในนครวาติกัน โดยมีคริสตศาสนิกชนเข้าร่วมหลายหมื่นคน ท่ามกลางความกังวลเรื่องสุขภาพของพระองค์
พระสันตะปาปาฟรานซิสวัย 87 ปี ทรงประทับในเก้าอี้รถเข็นเพื่อทำพิธีมิสซา ณ เวลา 10:00 น. ของเช้าวันอาทิตย์ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีเมฆครึ้มและลมแรง โดยมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงประทานพระโอวาทตามประเพณี ที่มีชื่อในภาษาละตินว่า Urbi et Orbi ซึ่งแปลว่า “แด่เมืองและโลก” โดยพระองค์ทรงพูดถึงที่ต่าง ๆ ในโลกที่กำลังประสบปัญหาอยู่ และทรงเรียกร้องให้ผู้คนและชาติต่าง ๆ พยายามสร้างความเชื่อมั่นในกันและกัน โดยเฉพาะอิสราเอลและปาเลสไตน์ที่กำลังมีความขัดแย้งกัน
เมื่อวันเสาร์ พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงทำพิธีสวดภาวนาก่อนวันอีสเตอร์ที่สำนักวาติกัน หลังจากก่อนหน้านี้หนึ่งวัน โป๊ปทรงยกเลิกการเข้าร่วมพิธีเนื่องในวันศุกร์ประเสริฐ หรือ Good Friday อย่างกะทันหัน ทำให้เกิดคำถามเรื่องสุขภาพของพระองค์
วันอีสเตอร์ซันเดย์ (Easter Sunday) คือวันที่พระเยซูทรงฟื้นคืนชีพมาจากความตายตามความเชื่อของชาวคริสต์ และถือเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ของคริสตศาสนิกชนทั่วโลก
พระเจ้าชาลส์ เสด็จพบประชาชน
ที่พระราชวังวินเซอร์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 เสด็จพบประชาชนที่มารอถวายพระพร หลังทรงเสร็จสิ้นการปฏิบัติพระราชกรณียกิจเนื่องในวันอีสเตอร์ ถือเป็นการพบประชาชนครั้งแรกนับตั้งแต่มีการประกาศว่า พระองค์ทรงตรวจพบมะเร็งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ซึ่งมีพระชนมายุ 75 พรรษา ทรงพระดำเนินพร้อมกับพระราชินีคามิลลา และทรงสัมผัสมือประชาชนที่มารอรับเสด็จด้านนอกวิหารเซนต์จอร์จ ซึ่งเป็นที่ฝังพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบ็ธที่ 2 พระราชชนนี
สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ทรงงดเว้นพระราชกรณียกิจมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เมื่อสำนักพระราชวังบักกิงแฮม ประกาศว่าทรงตรวจพบอาการประชวรด้วยโรคมะเร็งชนิดหนึ่ง แต่มิได้ระบุว่าเป็นมะเร็งชนิดใด
- ที่มา: รอยเตอร์ และเอเอฟพี