คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ออกคำสั่งให้กองทัพเร่งทดสอบอาวุธและยกระดับกำลังการผลิตยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อพร้อมสำหรับการรบเต็มรูปแบบ ตามรายงานของสื่อรัฐบาลกรุงเปียงยาง
สื่อ Korean Central News Agency (KCNA) เปิดเผยว่า คิม เข้าร่วมประชุมกับผู้บัญชาการกองทัพทั้งหลายจากคณะกรรมการธิการกลางด้านทหาร (Central Military Commission) ของพรรคแรงงานเกาหลี ในวันพุธเพื่อทำให้ “กองทัพเตรียมพร้อมเต็มที่สำหรับภาวะสงคราม โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาสถานการณ์ทางทหารและการเมืองที่ดูร้ายแรงน่ากังวลในคาบสมุทรเกาหลี”
KNCA ระบุด้วยว่า ประชุมดังกล่าวเป็นเหมือนการเตือนว่า เกาหลีเหนือ “กำลังวางแผนการรุกโต้กลับทางทหารเพื่อป้องปรามอย่างเต็มที่” ต่อ “ตัวการใหญ่” ซึ่งเป็นคำกล่าวที่น่าจะอ้างถึงเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ที่กำลังจะร่วมการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ Ulchi Freedom Shield อันเป็นกิจกรรมประจำปีที่เปียงยางมองว่าเป็นการซ้อมใหญ่เพื่อทำสงคราม และมีกำหนดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 สิงหาคมนี้
สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานว่า คิม “สั่งการให้มีการซ้อมรบอย่างจริงจังแข็งขันเพื่อให้สามารถใช้งานอาวุธและยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาได้ยอ่างมีประสิทธิภาพ” ด้วย
นักวิเคราะห์คาดว่า น่าจะมีการยกระดับกิจกรรมทางทหารในคาบสมุทรเกาหลีมากขึ้น ก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะต้อนรับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่นและประธานาธิบดียูน ซุก ยอล ซึ่งมีกำหนดเยือนสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า โดยผู้นำสองประเทศเอเชียนี้จะเป็นแขกชุดแรกของปธน.ไบเดน ที่แคมป์เดวิด อันเป็นที่พักตากอากาศอย่างเป็นทางการของผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งมักใช้เป็นสถานที่หารือประเด็นนโยบายต่างประเทศ
รายงานข่าวระบุว่า การหารือระหว่างผู้นำสามประเทศนี้น่าจะรวมถึงเรื่องที่ เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เดินทางร่วมฉลอง 70 ปีการสิ้นสุดสงครามเกาหลีที่กรุงเปียงยางและเข้าร่วมชมนิทรรศการด้านอาวุธของเกาหลีเหนือเมื่อเดือนที่แล้ว
นักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่รัฐบาลหลายรายเห็นพ้องต้องกันว่า การเยือนเกาหลีเหนือของชอยกูแสดงให้เห็นว่า มอสโกนั้นเริ่มอยู่ในภาวะจนตรอกในการจัดหาอาวุธต่าง ๆ มาช่วยการทำสงครามในยูเครน ซึ่งหมายถึงผลประโยชน์ไม่น้อยสำหรับเปียงยางทั้งในเรื่องของเงินตราต่างประเทศและน้ำมันรัสเซีย รวมทั้งเทคโนโลยีที่จะมาช่วยเติมเต็มโครงการพัฒนาขีปนาวุธของตนด้วย
คิม ยอล ซู จาก Korea Institute for Military Affairs บอกกับ วีโอเอ ว่า “สิ่งที่เกาหลีเหนือต้องการจากรัสเซียคือ เทคโนโลยี ... ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีที่จะช่วยติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์หลาย ๆ หัว [บนขีปนาวุธวิถีโค้งข้ามทวีปของตน]” ขณะที่ บรูซ เบนเนตต์ จาก RAND Corporation ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยในสหรัฐฯ ให้ความเห็นกับผู้สื่อข่าว วีโอเอ ภาคภาษาเกาหลี ว่า รัสเซียและเกาหลีเหนือน่าจะกำลังเจรจาด้านการค้าเพราะมาตรการลงโทษต่าง ๆ ต่อรัสเซียน่าจะทำให้มอสโกไม่สามารถสั่งซื้อโดรนจากอิหร่านได้เหมือนที่ผ่านมา จึงน่าจะต้องให้ไปหาเกาหลีเหนือที่พัฒนาโดรนของตนเองออกมาเช่นกัน
- ที่มา: วีโอเอ