สื่อเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลของสหรัฐฯ รายงานวันพุธว่า เคนเนธ กริฟฟิน มหาเศรษฐีกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ควักกระเป๋าจ่ายเงิน 44.6 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1,600 ล้านบาท เพื่อเป็นเจ้าของโครงกระดูกเกือบสมบูรณ์ของไดโนเสาร์ 'สเตโกซอรัส' (Stegosaurus) จากการประมูลของบริษัท Sotheby's
ราคาที่กริฟฟินจ่ายไป ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับการประมูลในหมวดฟอสซิล สูงกว่าโครงกระดูกไทเเรนโนซอรัสเร็กซ์ (Tyrannosaurus rex) ที่เคยถูกซื้อไปที่ราคา 32 ล้านดอลลาร์เมื่อ 4 ปีก่อน
โครงกระดูกสเตโกซอรัส ตัวนี้อายุราว 150 ล้านปี และมีชื่อเล่นว่า 'เอเพ็กซ์' เดิมทีคาดว่า ซากไดโนเสาร์ตัวนี้จะถูกประมูลที่ราคาเพียง 6 ล้านดอลลาร์
นักบรรพชีวินวิทยาเชิงพาณิชย์ เจสัน คูเปอร์ คือผู้ที่นำโครงกระดูกชุดนี้ออกประมูล
กริฟฟินวัย 55 ปี เป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท ซิทาเดล (Citadel) กล่าวว่าเขาอยากที่จะนำโครงกระดูกชุดนี้ไปให้พิพิธภัณฑ์ในสหรัฐฯ ขอยืมเพื่อการจัดเเสดง
"เอเพ็กซ์เกิดในอเมริกา และจะต้องอยู่ในอเมริกา" กริฟฟินกล่าวหลังชนะประมูล
มหาเศรษฐีผู้นี้มีประวัติว่าเป็นสายเปย์หนักเพื่อการเป็นเจ้าของวัตถุสุดเเสนหายาก เช่นในปี 2021 เขาชนะกลุ่มนักลงทุนเงินคริปโตในการเเข่งกันซื้อรัฐธรรมนูญอเมริกันที่ถูกตีพิมพ์ในชุดเเรก ไปที่ราคา 43.2 ล้านดอลลาร์ โดยมีเหตุผลส่วนหนึ่งคือเขาต้องการแน่ใจว่าเอกสารฉบับนี้จะยังอยู่ในอเมริกา
ในเวลาต่อมาเขามอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นการช่ัวคราวให้กับพิพิธภัณฑ์ Crystal Bridges Museum of American Art เพื่อการจัดเเสดง
ตามปกติ นักสะสมยอมจ่ายราคาพรีเมี่ยมให้กับไดโนเสาร์ที่เป็นนักล่าที่คนมักรู้จักจากภาพยนตร์ 'Jurassic Park' เช่น ไทเเรนโนซอรัสเร็กซ์ แต่สำหรับไดโนเสาร์กินพืชอย่าง 'เอเพ็กซ์' จุดเด่นของมันมาจากความครบถ้วนของโครงกระดูก
เจสัน คูเปอร์ พบโครงกระดูก 'เอเพ็กซ์' ในที่ดินของเขาที่เมืองไดโนซอร์ (Dinosaur) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐโคโลราโด 2 ปีก่อน
โครงกระดูกสเตโกซอรัส ตัวนี้มีความยาว 27 ฟุต โดยมีชิ้นกระดูก 254 ชิ้นที่ถูกพบ จากทั้งหมด 319 ชิ้น
โครงสร้างที่ถูกจัดเเสดงที่งานประมูล มีส่วนกระดูกที่ทำเทียมชึ้นมาเพื่อให้สมบูรณ์และสามารถนำ้ขึ้นตั้งโชว์ได้ด้วยความสูง 11 ฟุต
ไม่มีใครทราบว่า 'เอเพ็กซ์' เป็นไดโนเสาร์เพศผู้หรือเพศเมีย เเต่ บริษัท Sotheby's เชื่อว่ามันอยู่ในอายุโตเต็มวัย และไม่มีร่องรอยชัดเจนว่าเคยต่อสู้กับสัตว์อื่น นอกจากนั้นซากของมันยังประกอบด้วยหนังและกระดูกอ่อนอีกด้วย
- ที่มา: The Wall Street Journal
กระดานความเห็น