ใครที่ได้มีโอกาสไปเยือนเวนิส หนึ่งไฮไลต์ที่สำคัญ คือ การล่องเรือกอนโดลา ทว่า ปัจจุบันการล่องเรือกอนโดลาในเวนิส เริ่มเสื่อมมนต์ขลังในสายตาคนรุ่นใหม่ และอาจจะหายไปจากเมืองแห่งสายน้ำของอิตาลีได้ในไม่ช้า
เรือพายลำเล็กราว 400 ลำ ล่องไปตามคลองรอบนครเวนิส ดินแดนแสนโรแมนติก แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของอิตาลี ที่ใครๆก็อยากไปสัมผัสบรรยากาศนี้กันสักครั้ง แต่สำหรับโรเบอร์โต้ ทรามอนติน ทายาทรุ่นสุดท้ายของ ทรามอนติน แอนด์ ฟิกลิ ช่างต่อเรือกอนโดลาที่เหลืออยู่แห่งนครเวนิส นี่คือความภาคภูมิใจของเขาที่ยังมีผู้คนให้ความสนใจล่องเรือที่เขาสร้างมากับมือ
โรเบอร์โต้ เล่าว่า เมื่อเขาได้ยินว่าเรือกอนโดลา เป็นหนึ่งในวัตถุที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในโลก มันช่างเป็นความรู้สึกที่อิ่มเอมเปรมใจเสียเหลือเกิน เพราะเขาได้ใช้เวลาทั้งชีวิตอยู่กับการต่อเรือกอนโดลา ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทวดของเขาได้สร้างไว้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2427
ทายาทช่างต่อเรือรุ่นสุดท้ายของเวนิส อธิบายกรรมวิธีของการต่อเรือกอนโดลาว่า กว่าจะเป็นเรือกอนโดลา 1 ลำ ต้องใช้เวลาราว 2 เดือนในการสร้าง เลือกเฟ้นหาไม้ถึง 8 พันธุ์ มาตัดแต่งเป็นชิ้นส่วนของเรือ 280 ชิ้นอย่างวิจิตรบรรจง ไม้แต่ละแผ่นจะต้องนำไปแช่ในน้ำ และนำมาตากแห้ง ก่อนจะเผาให้ร้อนด้วยไฟอีกครั้งหนึ่งก่อนนำมาประกอบเป็นเรือในท้ายที่สุด
สเน่ห์ของเรือกอนโดลาของตระกูลทรามอนติน คือ ดีไซน์ของเรือที่ออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบา และรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์
สิ่งที่โรเบอร์โต้กังวล ไม่ใช่การสานต่อเจตนารมย์ของการต่อเรือกอนโดลา แต่คือความนิยมในการล่องเรือที่ลดลงไปอย่างน่าใจหายในปัจจุบัน จากเดิมที่ธุรกิจของตระกูลทรามอนติน เคยต่อเรือมากถึงวันละ 3 ลำ มาวันนี้กลับได้มีโอกาสต่อเรือเพียง 1 ลำต่อปี
โรเบอร์โต้ มองว่า ในอนาคตอาจจะมีเรือรูปลักษณ์ใหม่ๆ อาจจะเป็นเรือพลาสติก หรือเรือยาง มาล่องในคลองของเวนิสมากขึ้น เพียงแต่มันจะไม่ใช่เรือกอนโดลาที่เคยเป็น
ซึ่งกว่าจะถึงเวลานั้น เขาจะยังคงรักษาการต่อเรือกอนโดลาของตระกูลทรามอนติน ที่เต็มไปด้วยรายละเอียด ความใส่ใจ และดำรงไว้ซึ่งวิถีดั้งเดิมของเวนิส