ในช่วงเช้าวันอังคารตามเวลาในสหรัฐฯ วีโอเอภาคภาษาไทยได้มีโอกาสสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเดินทางมาร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ สมัยสามัญครั้งที่ 70 ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ค
ในรายงานสัมภาษณ์พิเศษนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอนที่ 2 นายกฯได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ และปัญหาการลักลอบค้ามนุษย์ ซึ่งทำให้ไทยยังคงอยู่ในกลุ่ม Tier-3 ในรายงานประจำปีเรื่องสถานการณ์การค้ามนุษย์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
ในด้านความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ นายกฯกล่าวถึงนโยบายของรัฐบาล ปธน.บารัค โอบาม่า ที่มุ่งหน้าสู่เอเชีย หรือ Asia Pivot ว่าเป็นธรรมดาที่ประเทศมหาอำนาจจะต้องการผูกสัมพันธ์กับประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และว่าปัจจุบันสหรัฐฯลงทุนในประเทศไทยเป็นอันดับ 3 ของโลก และมีหลายสิบบริษัทยินดีจะลงทุนต่อไปโดยมิได้มีเงื่อนไขว่าไทยต้องเป็นประชาธิปไตย
นอกจากนี้นายกฯ พลเอกประยุทธ์ ยืนยันว่าขณะที่มหาอำนาจอย่างสหรัฐฯกับจีนกำลังแผ่ขยายอิทธิพลในเอเชีย ไทยมีจุดยืนวางตัวเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เหมือนที่เป็นมาตลอด เพราะไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใครโดยตรง
สำหรับประเด็นด้านปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งประเทศไทยยังคงถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Tier-3 ในรายงานประจำปีเรื่องการค้ามนุษย์ของกระกทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ พลเอกประยุทธ์กล่าวว่าปัญหานี้เป็นปัญหาที่สั่งสมมานานในประเทศไทยตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อนๆ
นายกฯไทย ระบุว่าตนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และพยายามแก้ไขอยู่ แต่ต้องใช้เวลา พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะต้องทำให้ประชาคมโลกยอมรับให้ได้ว่า ไทยได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการแก้ไขปัญหาการลักลอบค้ามนุษย์
และเชื่อว่าในที่สุดกลุ่มประเทศและองค์กรต่างๆจะเข้าใจและให้อภัยประเทศไทย
(บทสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธฺ จันทร์โอชา จากที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ค โดยทรงพจน์ สุภาผล ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ วีโอเอภาคภาษาไทย)