ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สหรัฐฯ กังวล หลัง 'คิม จอง อึน' ส่งน้องสาวเชิญผู้นำเกาหลีใต้ร่วมประชุมสุดยอด


South Korean President Moon Jae-in shakes hands with Kim Yo Jong, the sister of North Korea's leader Kim Jong Un, in Seoul, South Korea in this undated photo released by North Korea's Korean Central News Agency (KCNA) February 10, 2018.
South Korean President Moon Jae-in shakes hands with Kim Yo Jong, the sister of North Korea's leader Kim Jong Un, in Seoul, South Korea in this undated photo released by North Korea's Korean Central News Agency (KCNA) February 10, 2018.

นักวิเคราะห์ชี้ว่า คำเชิญของผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ที่ต้องการให้ ปธน.เกาหลีใต้ มูน แจ-อิน เดินทางเยือนกรุงเปียงยาง ถือเป็นการขัดกับความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการกดดันเกาหลีเหนือให้ยุติโครงการพัฒนาอาวุธอำนาจทำลายล้างสูง

ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ส่งคำเชิญผ่านไปทางน้องสาวของตน คิม โย จอง ซึ่งเดินทางเยือนเกาหลีใต้และร่วมในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองพย็องชาง อยู่ในขณะนี้ เพื่อให้ ปธน.เกาหลีใต้ มูน แจ-อิน เดินทางเยือนกรุงเปียงยางเพื่อร่วมประชุมสุดยอดสองเกาหลี

คำเชิญดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก ซึ่งทางสำนักงานประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ระบุว่า ปธน.มูน ยินดีตอบรับคำเชิญครั้งนี้

ความพยายามกระชับความสัมพันธ์ของสองเกาหลี เกิดขึ้นในขณะที่สหประชาชาติและสหรัฐฯ กำลังกดดันเกาหลีเหนืออย่างหนัก ผ่านมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เปียงยางยุติโครงการทดสอบขีปนาวุธและโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

บรรดานักวิเคราะห์และอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ต่างชี้ว่า คำเชิญดังกล่าวถือเป็นหมากที่ฉลาดอย่างยิ่งของผู้นำ คิม จอง อึน เพราะอาจจะทำให้เกิดความไม่ลงรอยกันขึ้นได้ ระหว่างรัฐบาลกรุงวอชิงตันกับรัฐบาลกรุงโซล แม้ว่าก่อนหน้านี้ ปธน.มูน แจ อิน ได้มีท่าทีสนับสนุนมาตรการลงโทษของสหประชาชาติต่อเกาหลีเหนือก็ตาม

คุณเคน กอส (Ken Gause) ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการต่างประเทศของ Center for Naval Analyses กล่าวว่า ในอดีต การหารือกันระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้มักจบลงด้วยความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจที่ให้กับเกาหลีเหนือ ซึ่งหากการประชุมครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นนี้มีผลลัพธ์แบบเดียวกัน ก็อาจส่งผลเสียต่อยุทธศาสตร์เพิ่มแรงกดดันของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีต่อกรุงเปียงยางได้

ขณะที่ คุณบรู๊ซ คลิงก์เนอร์ (Bruce Klingner) อดีตเจ้าหน้าที่ CIA ซึ่งขณะนี้รับตำแหน่งนักวิจัยอาวุโสอยู่ที่สถาบัน Heritage Foundation กล่าวเตือนว่า หากเกาหลีใต้ตกลงให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือ อาจเข้าข่ายละเมิดมาตรการลงโทษของสหประชาชาติได้

ที่ผ่านมา รัฐบาล ปธน.มูน แจ-อิน ใช้นโยบายรักษาสมดุลระหว่างเพื่อนบ้าน คือ เกาหลีเหนือ กับพันธมิตรสำคัญ คือ สหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการเชื้อเชิญให้เกาหลีเหนือส่งนักกีฬามาร่วมในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองพย็องชาง โดยตั้งความหวังว่าผู้นำกรุงเปียงยางจะยินดีกลับสู่โต๊ะเจรจาเพื่อระงับโครงการนิวเคลียร์

ในขณะเดียวกัน ก็พยายามคลายความกังวลของสหรัฐฯ ที่สงสัยว่าเกาหลีเหนืออาจกำลังใช้กลยุทธ์สร้างความเห็นอกเห็นใจ เพื่อให้บรรเทามาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจและซื้อเวลาสำหรับการพัฒนาอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม อาจารย์เดนนิส ไวล์ดเดอร์ (Dennis Wilder) ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการเอเชียตะวันออก ที่มหาวิทยาลัย Georgetown ให้ความเห็นว่า ปธน.มูน ควรยื่นเงื่อนไขบางอย่างไปยังผู้นำคิม จอง อึน ก่อนที่จะรับคำเชิญ นั่นคือ รัฐบาลเปียงยางต้องตกลงที่จะกลับสู่โต๊ะเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าด้วยการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์เสียก่อน

เช่นเดียวกับ คุณโจเซฟ เดอทรานี (Joseph DeTrani) อดีตผู้แทนพิเศษในการเจรจากับเกาหลีเหนือ ที่เชื่อว่า ปธน.มูน จำเป็นต้องขอคำยืนยันจาก คิม จอง อึน ว่าจะมีการเจรจาเรื่องการระงับโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือระหว่างการพบหารือครั้งนี้

ทางด้าน รอง ปธน.สหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ ซึ่งเป็นผู้แทนของสหรัฐฯ เข้าร่วมในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เกาหลีใต้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้พูดคุยกับ ปธน.มูน เกี่ยวกับการหารือร่วมกันของผู้นำเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือแล้ว และเชื่อมั่นว่า รัฐบาลเกาหลีใต้จะเลือกยืนข้างสหรัฐฯ ต่อไป ในการกดดันและโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือ จนกว่ากรุงเปียงยางจะยอมยกเลิกโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

(ผู้สื่อข่าว Jong Su Oh รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)

XS
SM
MD
LG