ลิ้งค์เชื่อมต่อ

โชคชะตากำหนด! 'แฮริสัน ฟอร์ด' พาอินดี้กระโจนขึ้นอันดับ 1 แม้เปิดตัวกร่อย


This image released by Lucasfilm shows Harrison Ford in a scene from "Indiana Jones and the Dial of Destiny."
This image released by Lucasfilm shows Harrison Ford in a scene from "Indiana Jones and the Dial of Destiny."

แฮริสัน ฟอร์ด และบรรดาผู้บริหารของวอลท์ ดีสนีย์ (Walt Disney Co.) และลูคัสฟิล์ม (Lucasfilm) อาจต้องถึงคราวยอมแพ้ต่อโชคชะตา เมื่อภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของฟอร์ดในเวอร์ชั่น อินดี้-อินเดียน่า โจนส์ นักผจญภัยผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค ทำรายได้ไม่เป็นไปตามเป้า แม้จะเปิดตัวที่อันดับหนึ่งในอเมริกาเหนือเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม

This image released by Lucasfilm shows Ethann Isidore, from left, Harrison Ford and Phoebe Waller-Bridge in a scene from "Indiana Jones and the Dial of Destiny."
This image released by Lucasfilm shows Ethann Isidore, from left, Harrison Ford and Phoebe Waller-Bridge in a scene from "Indiana Jones and the Dial of Destiny."

“Indiana Jones and the Dial of Destiny" หรือ "อินเดียน่า โจนส์ กับกงล้อแห่งโชคชะตา" คว้ารายได้ไป 60 ล้านดอลลาร์ในสุดสัปดาห์แรกที่ออกฉายในวันหยุดวันชาติอเมริกา ซึ่งถือว่าหนทางอีกยาวไกลเมื่อเทียบกับทุนสร้าง 250 ล้านดอลลาร์ อ้างอิงจากการประเมินของวอลท์ ดิสนีย์

และแม้จะกวาดรายได้จากตลาดต่างประเทศไปอีก 70 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังต่ำกว่าที่ดีสนีย์ตั้งเป้าไว้ว่าภาพยนตร์แอคชั่นผจญภัยที่มีแฟนเหนียวแน่นทั่วโลกนี้น่าจะเปิดตัวได้ราว 82 ล้านดอลลาร์ในตลาดอเมริกา และ 152 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก

“กงล้อแห่งโชคชะตา” คือภาคที่ 5 และภาคสุดท้ายของภาพยนตร์ชุด "อินเดียน่า โจนส์" ที่เป็นการจับมือกันระหว่างผู้กำกับ สตีเวน สปีลเบิร์ก และผู้สร้างหนัง จอร์จ ลูคัส ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 1981 หรือกว่า 40 ปีก่อน และเป็นภาคแรกที่สปีลเบิร์กมิได้ลงมือกำกับด้วยตัวเอง แต่มอบหมายให้เจมส์ แมนโกลด์ ทำหน้าที่แทน

This image released by Lucasfilm shows Phoebe Waller-Bridge, left, and Harrison Ford in a scene from "Indiana Jones and the Dial of Destiny."
This image released by Lucasfilm shows Phoebe Waller-Bridge, left, and Harrison Ford in a scene from "Indiana Jones and the Dial of Destiny."

เรื่องราวยังคงติดตามการผจญภัยของ ดร.อินดี้ ที่คราวนี้ลาออกจากงานประจำแล้วท่องโลกอีกครั้งพร้อมลูกทูนหัว เฮเลนา

พอล เดอร์การาเบเดียน นักวิเคราะห์ของ Comscore กล่าวว่า "น่าประทับใจที่ภาพยนตร์ชุดซึ่งมีอายุกว่า 40 ปียังคงสามารถครองอันดับ 1 บนบ็อกซ์ออฟฟิศได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความคาดหวังสูงในหนังเรื่องนี้" และว่า "นี่คืออินเดียน่า โจนส์ นี่คือสัญลักษณ์ของหนังฤดูร้อน"

ตามมาอันดับ 2 คือ “Spider-Man: Across the Spider-Verse” ที่เก็บรายได้เพิ่มอีก 11.5 ล้านดอลลาร์ ทำให้กวาดรายได้ในอเมริกาเหนือแล้ว 340 ล้านดอลลาร์ ส่วนหนังแอนิเมชันจากค่ายพิกซาร์ “Elemental” เข้ามาที่ 3 กับรายได้อีก 11.3 ล้านดอลลาร์หลังจากออกฉายมาสามสัปดาห์

สำหรับสุดสัปดาห์ต่อไปในเดือนนี้ "อินเดียน่า โจนส์" มีความท้าทายมากมายรออยู่จากคู่แข่งที่เตรียมลงโรงฉายต่อเนื่อง ตั้งแต่ “Mission: Impossible-Dead Reckoning Part I” ที่จะเปิดตัวในวันที่ 12 ก.ค. ตามด้วย “Oppenheimer” และ “Barbie” ที่จะเปิดตัวพร้อมกันในวันที่ 21 ก.ค.

อันดับภาพยนตร์ทำเงินในอเมริกาเหนือ สุดสัปดาห์ที่ 2 ก.ค. อ้างอิงจาก Comscore

1. “Indiana Jones and the Dial of Destiny,” $60 million.

2. “Spider-Man: Across the Spider-Verse,” $11.5 million.

3. “Elemental,” $11.3 million.

4. “No Hard Feelings,” $7.5 million.

5. “Transformers: Rise of the Beasts,” $7 million.

6. “Ruby Gillman, Teenage Kraken,” $5.2 million.

7. “The Little Mermaid,” $5.2 million.

8. “The Flash,” $5 million.

9. “Asteroid City,” $3.8 million.

10. “Guardians of the Galaxy Vol. 3,” $1.8 million.

  • ที่มา: เอพี, คอมสกอร์

XS
SM
MD
LG