สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลอินเดียจะยังส่งความช่วยเหลือด้านวัคซีนโควิด-19 ให้แก่เมียนมาเพื่อใช้ในการควบคุมการระบาด แม้กำลังเกิดแรงกดดันจากนานาชาติให้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรกองทัพเมียนมาหลังเหตุการณ์ยึดอำนาจ จากการเปิดเผยของกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย
เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลอินเดียได้จัดส่งความช่วยเหลือในรูปของวัคซีนโควิด-19 จำนวน 1.5 ล้านโดส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเชื่อมความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจในเมียนมาและจับกุมผู้นำรัฐบาล นางออง ซาน ซู จี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย อานุรัก ศรีวัสทวา กล่าวในวันอาทิตย์ว่า อินเดียจับตามองสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิด แต่ขอยืนยันว่าจะยังจัดส่งวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชนเมียนมาต่อไปเพื่อลดผลกระทบจากการระบาดครั้งนี้
รอยเตอร์รายงานว่า ขณะนี้วัคซีนโควิดชุดที่สองอีก 1.5 ล้านโดสที่จะถูกส่งให้แก่เมียนมาได้ถูกจัดเตรียมไว้แล้ว แต่ยังไม่ระบุว่าจะจัดส่งวันไหน
ปัจจุบัน อินเดียคือผู้ผลิตวัคซีนโควิดรายใหญ่ที่สุดในโลก และได้บริจาควัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ที่ผลิตโดยบริษัท Serum Institute of India ให้แก่เพื่อนบ้านไปแล้วหลายประเทศ เช่น บังกลาเทศ เนปาล ภูฏาน และศรีลังกา
นักวิเคราะห์เชื่อว่าโครงการ "วัคซีนไมตรี" หรือ “Vaccine Friendship” นี้มีขึ้นเพื่อคานการแผ่ขยายอิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจของจีนในภูมิภาคนี้
ก่อนหน้านี้ สหประชาชาติและประเทศตะวันตกหลายประเทศได้ออกมาประณามเหตุการณ์ยึดอำนาจในเมียนมา และเรียกร้องให้นำมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเมียนมากลับมาใช้อีกครั้ง