เมื่อวันศุกร์ ทางการอินเดียระบุว่าได้ยิงขีปนาวุธไปยังปากีสถาน “โดยไม่ได้ตั้งใจ” ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความผิดพลาดทางเทคนิคระหว่างการซ่อมบำรุง
การเปิดเผยครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ปากีสถานเรียกเจ้าหน้าที่การทูตอินเดียเข้าพบเพื่อเเสดงความไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของอินเดียครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ตามรายงานของรอยเตอร์
ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเตือนว่า ทั้งอินเดียและปากีสถานอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือการประเมินสถานการณ์ผิดพลาดที่เกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ โดยทั้งสองประเทศผ่านสงครามมาแล้วสามครั้งและมีการปะทะครั้งย่อยมาแล้วหลายครั้ง โดยมักเป็นประเด็นชายแดนแคชเมียร์
ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และเหตุยิงขีปนาวุธครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามต่อกลไกรักษาความปลอดภัยของอินเดียโดยทันที
กระทรวงกลาโหมอินเดียระบุในแถลงการณ์ยาวสามย่อหน้าว่า เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ขีปนาวุธถูกยิงโดยอุบัติเหตุระหว่างการซ่อมบำรุง โดยเกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิค และทราบว่าชีปนาวุธลูกนี้ตกในปากีสถาน
ทางกระทรวงกล่าวต่อว่า ทางหน่วยงานรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุดังกล่าว แต่ก็โล่งใจที่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต และรัฐบาลอินเดียจริงจังกับเหตุการณ์ครั้งนี้และให้นำเรื่องไปยังศาลไต่สวนต่อไป
ทางการปากีสถานระบุว่า ขีปนาวุธดังกล่าวไม่ได้ติดอาวุธ และตกลงใกล้กับเมืองเมียน ชันนู ห่างจากกรุงอิสลามาบัดราว 500 กิโลเมตร
กระทรวงต่างประเทศปากีสถานเรียกอุปทูตอินเดียเข้าพบเพื่อคัดค้านการกระทำของอินเดีย ที่ปากีสถานระบุว่าเป็นการละเมิดน่านฟ้าโดยไม่มีเหตุผล และอาจเป็นอันตรายต่อผู้โดยสารบนเครื่องบินและชีวิตประชาชนได้
ปากีสถานเตือนอินเดียให้ระวังถึงผลที่ตามมาจาก “ความไม่รอบคอบ” ดังกล่าว และให้ใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุละเมิดในลักษณะดังกล่าวอีก
เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงอาวุโสของปากีสถานรายหนึ่ง กล่าวกับรอยเตอร์ว่า เหตุครั้งนี้ทำให้ปากีสถานตื่นตัวมากขึ้น โดยการที่อินเดียยอมรับว่าขีปนาวุธถูกยิงนั้น แสดงให้เห็นว่าอินเดียละเลยกลไกรักษาความปลอดภัยและการดูแลทางเทคนิคของอาวุธที่เป็นอันตราย และนานาชาติควรจับตามองอย่างใกล้ชิด
เจ้าหน้าที่ผู้นี้เห็นว่า ขีปนาวุธดังกล่าวอาจเป็นขีปนาวุธ BrahMos ซึ่งเป็นขีปนาวุธร่อนภาคพื้นดิน สามารถติดตั้งนิวเคลียร์ได้ เป็นผลงานพัฒนาร่วมกันระหว่างรัสเซียและอินเดีย
ข้อมูลจากองค์กร Arms Control Association ระบุว่า ขีปนาวุธนี้มีพิสัยระหว่าง 300-500 กิโลเมตร และสามารถโจมตีกรุงอิสลามาบัดได้หากถูกยิงจากแท่นยิงทางตอนเหนือของอินเดีย
เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยังระบุด้วยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้อาจแสดงให้เห็นว่า อินเดียมีขีปนาวุธในจุดพร้อมยิงและจ่อมายังปากีสถานแล้ว โดยไม่มีการป้องกันหรือระบบควบคุมที่ดีพอ
โฆษกกองทัพปากีสถานกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า “วัตถุบินด้วยความเร็วสูง” จากเมืองเซอร์ซา ทางตอนเหนือของอินเดีย ได้ตกลงมาทางตะวันออกของปากีสถาน และวิถีบินของวัตถุดังกล่าวเป็นอันตรายต่อผู้โดยสารบนเครื่องบินทั้งในน่านฟ้าปากีสถานและอินเดีย เช่นเดียวกับประชาชนและบ้านเรือนบนพื้นดิน
เจ้าหน้าที่กองทัพอากาศปากีสถานระบุว่า วัตถุดังกล่าวที่บินด้วยความสูง 40,000 ฟุต และบินด้วยความเร็วเหนือเสียงสามเท่า ได้รุกล้ำเข้ามายังน่านฟ้าปากีสถานเป็นระยะทาง 124 กิโลเมตร
- ที่มา: รอยเตอร์