สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ธนาคารโลกจะทุ่มงบ 12,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 377,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือบรรดาประเทศที่กำลังพัฒนารับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19
ธนาคารโลกระบุว่า จะช่วยเหลือประเทศที่ยากจนที่สุด และอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการระบาดของไวรัสมากที่สุดก่อน โดยการช่วยเหลือจะมาทั้งในรูปแบบของเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เงินช่วยเหลือ และความช่วยเหลือทางด้านเทคนิค
ทั้งนี้ การช่วยเหลือมากกว่าครึ่งจะมาจากบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรในเครือธนาคารโลกที่ทำงานกับภาคเอกชน โดยงบราว 4 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 125,700 ล้านบาท จะถูกจัดสรรมาจากกองทุนที่มีอยู่แล้ว
นอกจากนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ยังรายงานด้วยว่า ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ จะเตรียมจัดการประชุมประจำฤดูใบไม้ผลิในวันที่ 17 – 19 เมษายน เป็นการประชุมทางไกลแทนการเข้าประชุมด้วยตนเอง ที่กรุงวอชิงตัน หลังจากมีความกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัสที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
คริสตาลีนา จีโอจีเอวา ผู้บริหารของไอเอ็มเอฟ และเดวิด มัลพาส ประธานธนาคารโลก กล่าวว่า จุดประสงค์ของการจัดประชุมทางไกลนี้เพื่อให้ประเทศสมาชิกทั้ง 189 ประเทศมีส่วนร่วมผลักดันประเด็นเศรษฐกิจโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังสามารถรับประกันสุขภาพและความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมประชุมและเจ้าหน้าที่ได้
โดยปกติแล้ว การประชุมดังกล่าวจะมีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้สื่อข่าว นักธุรกิจ และตัวแทนภาคประชาสังคมนับหมื่นคน เดินทางจากทั่วโลกมาร่วมประชุมในพื้นที่อาคารสำนักงานใหญ่ในกรุงวอชิงตัน ที่มีขนาดพื้นที่เพียงสองช่วงถนนเท่านั้น โดยทั้งสององค์กรต่างกังวลว่า ลักษณะการจัดงานดังกล่าวอาจเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
ทั้งนี้ กฎของไอเอ็มเอฟและธนาคารโลกระบุว่า การประชุมระดับคณะกรรมการประจำปี ซึ่งมักจัดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะต้องให้ผู้เข้าร่วมมาประชุมด้วยตนเองเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทั้งสองค์กรก็เคยยกเลิกการประชุมประจำปี ณ กรุงวอชิงตันเมื่อเดือนกันยายน 2544 หลังเกิดเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน โดยเลื่อนไปจัดการประชุมในเดือนพฤศจิกายนในปีเดียวกัน ณ กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดาแทน