กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ เผยรายงานการคาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในวันอังคาร โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะไม่หดตัวรุนแรงเหมือนที่คาดการณ์ไว้ครั้งก่อน เนื่องจากประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ เช่น จีน เริ่มกลับมาฟื้นตัวเร็วกว่าที่คิด
ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ล่าสุดว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะหดตัว 4.4% ซึ่งน้อยกว่าครั้งที่แล้วเมื่อเดือนมิถุนายนที่คาดการณ์ว่าจะหดตัว 5.2% ในช่วงที่การระบาดของโควิด-19 กำลังอยู่ในจุดสูงสุดทั่วโลก
ไอเอ็มเอฟ คาดด้วยว่าเศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะขยายตัวที่ระดับ 5.2% แต่ทั้งนี้บางประเทศอาจมีการฟื้นตัวที่ช้ากว่าประเทศอื่น โดยเฉพาะประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโต เช่น อินเดีย และบราซิล ที่สถานการณ์การระบาดยังรุนแรง
กีตา โกปินาธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ ระบุว่ามาตรการช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ซึ่งมีมูลค่ารวมกันราว 12 ล้านล้านดอลลาร์ คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดของโควิด-19 และควรมีการใช้มาตรการฟื้นฟูทั้งทางด้านการเงินและการคลังต่อไป
เมื่อแยกเป็นรายภูมิภาค ไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะหดตัวลง 4.3% ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าระดับ 8% ที่เคยทำนายไว้เมื่อเดือนมิถุนายน ส่วนปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวที่ระดับ 3.1%
ส่วนเศรษฐกิจของประเทศกลุ่มยูโรโซน คาดว่าจะหดตัวลง 8.3% ในปีนี้ ลดลงจาก 10.2% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อ 4 เดือนก่อน และคาดว่าจะขยายตัว 5.2% ในปีหน้า ไอเอ็มเอฟยังคาดด้วยว่า เศรษฐกิจสเปนซึ่งพึ่งพาการท่องเที่ยวจะหดตัวลงถึง 12.8% ในปีนี้
สำหรับจีน ไอเอ็มเอฟคาดว่าจะเป็นเพียงประเทศเดียวที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้เป็นบวกที่ 1.9% และจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 8.2% ในปีหน้า ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี หลังจากที่เศรษฐกิจจีนเริ่มมีการฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เมื่อต้นปีนี้
