อิสราเอลเผชิญกับเหตุรุนแรงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ถือเป็นการโจมตีอิสราเอลครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ประเทศอาหรับเปิดฉากโจมตีอิสราเอลเมื่อปี 1973 และเกิดขึ้นหลังจากการวางอุบายมาร่วม 2 ปีโดยกลุ่มฮามาสเก็บงำแผนการทหารนี้ไว้อย่างมิดชิด จนทำให้อิสราเอลเข้าใจว่ากลุ่มฮามาสไม่ได้ต้องการการปะทะ
กลุ่มฮามาสตบตาอิสราเอลได้อย่างไร ระหว่างที่กำลังวางแผนโจมตีทำลายล้างครั้งใหญ่กับอิสราเอล?
การวางแผนอย่างแยบยลเพื่อให้แน่ใจว่าอิสราเอลจะไม่ทันได้ตั้งตัวกับการเปิดฉากโจมตีของกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ฮามาสเมื่อวันเสาร์ เปิดทางให้กองกำลังที่ใช้รถแทรกเตอร์เกลี่ยดิน ร่มร่อน และรถจักรยานยนต์ สามารถเข้าจัดการกองทัพที่ทรงพลังที่สุดในตะวันออกกลางได้อย่างคาดไม่ถึง
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับกลุ่มฮามาส เผยกับรอยเตอร์ว่า ระหว่างที่อิสราเอลเชื่ออย่างสนิทใจว่า “เอาอยู่” ในการควบคุมกลุ่มฮามาสด้วยการอัดมาตรการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจให้แก่แรงงานในฉนวนกาซา กองกำลังติดอาวุธเหล่านี้กลับเดินหน้าลับคมทักษะและเตรียมการสำหรับการสู้รบ และมักทำให้อิสราเอลเห็นบ่อยครั้งเสียด้วย
แหล่งข่าวใกล้ชิดกลุ่มฮามาส ระบุว่า “ฮามาสทำให้อิสราเอลรู้สึกว่าไม่พร้อมสำหรับการต่อสู้” และ “ฮามาสใช้กลยุทธ์ข่าวกรองแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อลวงอิสราเอลในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ด้วยการสร้างความเข้าใจว่าฮามาสไม่พร้อมสำหรับการต่อสู้หรือการเผชิญหน้ากับอิสราเอล ระหว่างที่กองกำลังติดอาวุธนี้กำลังเตรียมปฏิบัติการใหญ่ครั้งนี้”
ทางอิสราเอลยอมรับว่าตนไม่ทันตั้งตัวกับเหตุโจมตี ที่ตรงกับวันชับบาท (Jewish Sabbath) หรือวันสะบาโต และวันหยุดทางศาสนาของชาวยิว กลุ่มฮามาสบุกเข้าไปยังหลายเมืองของอิสราเอล คร่าชีวิตชาวอิสราเอล 700 คนและลักพาตัวนับสิบราย ขณะที่ฝั่งอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์มากกว่า 400 คนเพื่อตอบโต้กลับนับตั้งแต่นั้น
โฆษกกองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอล พันตรี เนียร์ ดินาร์ กล่าวว่า “นี่คือเหตุวินาศกรรม 11 กันยายนของเรา”
โอซามา แฮมดัน ตัวแทนกลุ่มฮามาสในเลบานอน กล่าวกับรอยเตอร์ว่า การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าชาวปาเลสไตน์มีความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย “ไม่ว่าศักยภาพด้านการทหารของอิสราเอลจะเป็นเช่นไร”
การก่อจลาจลบนการซ้อมรบ
แหล่งข่าวใกล้ชิดกับกลุ่มฮามาส เผยว่าองค์ประกอบหนึ่งที่โดดเด่นในการเตรียมการสู้รบของฮามาส คือ การสร้างชุมชนอิสราเอลจำลองในฉนวนกาซา ซึ่งใช้เป็นพื้นที่การฝึกซ้อมเพื่อปฏิบัติการยกพลขึ้นบกและการฝึกทหารบุกจู่โจม อีกทั้งพวกเขายังทำวิดีโอสำหรับการฝึกซ้อมรบด้วย และว่า “อิสราเอลเองก็เห็นพวกเขาแต่กลับเชื่อว่าฮามาสไม่ได้อยากจะเผชิญหน้า”
ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มฮามาสพยายามทำให้อิสราเอลเชื่อว่าพวกเขาใส่ใจเรื่องของแรงงานในกาซามากกว่าการเริ่มต้นสงครามครั้งใหม่
นับตั้งแต่สงครามกับฮามาสเมื่อปี 2021 อิสราเอลได้พยายามสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจขั้นพื้นฐานในกาซา ด้วยมาตรการต่าง ๆ รวมทั้งใบอนุญาตทำงานแก่ชาวปาเลสไตน์ให้สามารถทำงานในอิสราเอลหรือในเขตเวสต์แบงค์ได้ ซึ่งรายได้ของภาคก่อสร้าง เกษตรกรรม และภาคบริการอาจสูงถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับงานในฉนวนกาซา
โฆษกกองทัพอิสราเอลอีกรายกล่าวว่า “เราเชื่อว่าความจริงที่ว่าพวกเขาเข้ามาทำงานและขนเงินกลับไปกาซาอาจสร้างความอุ่นใจได้ระดับหนึ่ง แต่พวกเราคิดผิด”
แหล่งข่าวจากหน่วยความมั่นคงอิสราเอลรับรู้ว่าหน่วยความมั่นคงอิสราเอลเองก็ถูกตบตาโดยกลุ่มฮามาส “พวกเขาทำให้เราคิดว่าพวกเขาต้องการเงิน” และว่า “และตลอดเวลาพวกเขาซ้อมรบหรือฝึกทหารจนกระทั่งก่อเหตุจลาจลขึ้นมา”
ส่วนหนึ่งของแผนการในช่วง 2 ปีมานี้ ฮามาสงดเว้นจากเผชิญหน้าการทางทหารกับอิสราเอล แม้แต่ในช่วงที่กลุ่มติดอาวุธอิสลาม Islamic Jihad ในกาซาได้เปิดฉากโจมตีขึ้นมาก็ตาม
ไม่เฉลียวใจ
ในเขตเวสต์แบงค์ ภายใต้การดูแลของประธานาธิบดีปาเลสไตน์ มาห์มูด อับบาส (Mahmoud Abbas) และกลุ่มฟาตาห์ (Fatah) ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองที่มีนโยบายประนีประนอมกับอิสราเอล มีเสียงสะท้อนเชิงล้อเลียนว่ากลุ่มฮามาสปิดปากเงียบ ในแถลงการณ์กลุ่มฟาตาห์ที่เผยแพร่ในเดือนมิถุนายน 2022 ได้กล่าวหาผู้นำกลุ่มฮามาสว่าหลบหนีไปยังประเทศในอาหรับเพื่อใช้ชีวิต “ในโรงแรมและวิลล่าหรูหรา” และทิ้งให้ประชาชนอดอยากในกาซา
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงอิสราเอลรายที่ 2 เผยกับรอยเตอร์ด้วยว่า มีช่วงหนึ่งที่อิสราเอลเชื่อว่า ยาห์ยา อัล-ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาสในกาซา กำลังวุ่นวายกับการจัดการภายในกาซา “มากกว่ามุ่งสังหารชาวยิว” ในเวลาเดียวกันนั้น อิสราเอลได้ลดความสนใจจากกลุ่มฮามาส มาเป็นการผลักดันการตกลงในการฟื้นฟูสัมพันธ์ให้เป็นปกติกับซาอุดีอาระเบีย
แหล่งข่าวใกล้ชิดกลุ่มฮามาสเสริมว่า อิสราเอลเคยภาคภูมิใจกับความสามารถในการแทรกซึมและติดตามกลุ่มติดอาวุธอิสลาม และส่วนสำคัญของแผนการของฮามาสก็คือการปิดช่องทางที่ข้อมูลข่าวกรองจะรั่วไหล
ผู้นำกลุ่มฮามาสหลายรายไม่ล่วงรู้มาก่อนเกี่ยวกับแผนโจมตีอิสราเอลครั้งนี้ และระหว่างการฝึกฝนการสู้รบ นับรบฮามาส 1,000 นายต่างไม่เฉลียวใจเลยว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของการฝึกซ้อมด้านการทหารเหล่านี้คืออะไรกันแน่
วันโจมตี
แหล่งข่าวใกล้ชิดกลุ่มฮามาสอธิบายเป็นฉาก ๆ ว่า ปฏิบัติการจู่โจมแบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน ขั้นแรกคือการระดมโจมตีด้วยจรวด 3,000 ลูกจากกาซา ที่สอดรับกับการบุกทะลวงของเหล่านักรบฮามาสที่มากับร่มร่อนบริเวณพรมแดน ขณะที่ฝั่งอิสราเอลระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่ามีจรวด 2,500 ลูกยิงเข้ามาในตอนแรก
ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยกับรอยเตอร์ด้วยว่า เมื่อกองกำลังถึงพื้นดิน พวกเขาจะตระเตรียมพื้นที่ให้หน่วยคอมมานโดบุกโจมตีกำแพงกั้นโดยอิสราเอลเพื่อป้องกันการบุกรุกเข้ามา และใช้ระเบิดเพื่อทำลายแผงกั้นและขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา รถแทรกเตอร์เกลี่ยดินเข้ามาปิดกั้นช่องว่างและกองกำลังของกลุ่มฮามาสเข้ามาเสริมทัพด้วยรถโฟร์วีล
แหล่งข่าวเสริมว่า หน่วยคอมมานโดฮามาสได้บุกโจมตีกองทัพอิสราเอลทางตอนใต้ของกาซาและขัดขวางการติดต่อสื่อสารภายในกองทัพอิสราเอล เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ส่งข่าวใด ๆ ได้
และส่วนสุดท้าย คือ การเคลื่อนย้ายตัวประกันไปยังกาซา ซึ่งกลุ่มฮามาสประสบความสำเร็จในช่วงเริ่มต้นของการโจมตี
หนึ่งในเหตุการณ์บุกจับตัวประกันที่เป็นข่าวใหญ่ในสุดสัปดาห์ คือ กลุ่มที่ไปงานเทศกาลดนตรีใกล้กับกาซา ที่มีคลิปบนสื่อสังคมออนไลน์เผยช่วงเวลาสะเทือนขวัญในการบุกจับตัวประกันและเสียงปืนลั่นในงานดังกล่าว ซึ่งแหล่งข่าวในหน่วยความมั่นคงอิสราเอลตั้งคำถามว่า “งานนี้มาจัดขึ้นใกล้(กาซา)ขนาดนั้นได้อย่างไร?”
ความล้มเหลวครั้งใหญ่
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอิสราเอล ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทหารอิสราเอลไม่ได้อยู่กันครบทีมในพื้นที่ตอนใต้ของกาซา เนื่องจากบางส่วนถูกส่งไปประจำการที่เวสต์แบงค์ เพื่อป้องกันชาวอิสราเอลผู้ตั้งถิ่นฐานในเวสต์แบงค์ หลังจากมีเหตุรุนแรงระหว่างกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์กับชาวอิสราเอลในพื้นที่ดังกล่าว
เดนนิส รอสส์ อดีตผู้เชี่ยวชาญการเจรจาต่อรองตัวประกันในตะวันออกกลาง ที่ปัจจุบันเป็นผู้เชี่ยวชาญแห่งสถาบันคลังสมอง Washington Institute for Near East Policy กล่าวกับรอยเตอร์ว่า อิสราเอลกำลังสนใจกับเหตุรุนแรงในเวสต์แบงค์ นำไปสู่ “การมีอยู่ของทหารในตอนใต้ที่น้อยและไม่ได้เตรียมการพอ”
รอสส์ กล่าวด้วยว่า “ฮามาสอาจจะประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย แต่ตอนนี้พวกเขาต้องเตรียมรับมือกับอิสราเอลที่เตรียมจะบดขยี้พวกเขาให้ราบคาบ”
พลเอกยาคอฟ อามิดรอร์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าการโจมตีครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึง “ความล้มเหลวครั้งใหญ่ของระบบหน่วยข่าวกรองและความเพียบพร้อมด้านการทหารทางตอนใต้อิสราเอล”
พลเอกอามิดรอร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นนักวิชาการอาวุโสแห่ง Jerusalem Institute for Strategy and Security กล่าวด้วยว่าพันธมิตรอิสราเอลบางส่วนได้บอกว่ากลุ่มฮามาส “ดูมีความรับผิดชอบมากขึ้น” และ “เราเริ่มที่จะเชื่ออย่างไม่ฉลาดว่ามันเป็นจริงอย่างที่ว่า...ดังนั้น เราได้ทำผิด เราจะไม่ทำผิดซ้ำสอง และเราจะทำลายกลุ่มฮามาสอย่างช้า ๆ แต่แน่นอน”
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น