ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ส.ส.อดัม ชิฟฟ์ จากพรรคเดโมแครต กล่าวเตือนในวันพุธว่า ความพยายามของรัฐบาล ปธน.ทรัมป์ ที่จะขัดขวางกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะกลายเป็นหลักฐานในการกระทำผิดเรื่องขัดขวางกระบวนการยุติธรรม
ส.ส.ชิฟฟ์ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่รัฐสภาสหรัฐฯ ในวันพุธว่า "เรามีความกังวลว่าทำเนียบขาวพยายามขัดขวางการสืบสวนที่อาจนำไปสู่กระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐฯ" และว่า "ความพยายามใด ๆ ก็ตามของประธานาธิบดีหรือบุคคลในคณะรัฐบาล ในการแทรกแซงกระบวนการสืบพยานของรัฐสภา จะถือว่าเป็นหลักฐานของการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม"
เมื่อวานนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ ได้ยื่นจดหมายต่อคณะกรรมาธิการการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระบุว่า ส.ส.เดโมแครต พยายามข่มขู่คุกคามเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ ด้วยการให้เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศที่มีความเกี่ยวข้องกับกรณีการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดียูเครน ขึ้นให้ข้อมูล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการไต่สวนในกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐฯ
การเคลื่อนไหวของนายพอมเพโอ มีขึ้นหลังจากที่หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal รายงานว่า นายพอมเพโอเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฟังการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เมื่อ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้กระทรวงต่างประเทศถูกจับตาอย่างมากในเรื่องนี้
เวลานี้คณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินหน้าเต็มกำลังในการเรียกตัวเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ 5 คน และอดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศหลายคน ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้มาขึ้นให้การ
ประเด็นนี้ได้กลายเป็นปมสำคัญให้ทางคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เริ่มต้นกระบวนการไต่สวนในกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ หลังจากที่ผู้ออกมาเปิดโปง หรือ whistleblower กล่าวหาประธานาธิบดีทรัมป์ว่าโทรศัพท์หาประธานาธิบดียูเครน เพื่อขอให้ผู้นำยูเครนช่วยหาข้อมูลที่ให้ร้ายต่ออดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน และลูกชาย นายฮันเตอร์ ไบเดน โดยหวังว่าจะสามารถสกัดความพยายามของโจ ไบเดนที่จะเป็นตัวแทนเดโมเเครตชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งปีหน้า