สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ เริ่มต้นกระบวนการไต่สวนอย่างเป็นทางการ สำหรับกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่ง จากข้อกล่าวหาที่ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขอความช่วยเหลือทางการเมืองจากประธานาธิบดียูเครน เพื่อโจมตีบุตรชายของอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งตอนนี้อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นผู้สมัครระดับแนวหน้าของพรรคเดโมแครต เพื่อเข้าเป็นตัวแทนของพรรค และอาจเป็นคู่แข่งทางการเมืองของประธานาธิบดีทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปีหน้า
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ประกาศเมื่อวันอังคารในการเริ่มต้นกระบวนการไต่สวนอย่างเป็นทางการ สำหรับกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่ง โดยบอกว่า ประธานาธิบดีต้องแสดงความรับผิดชอบ และไม่มีใครอยู่เหนือกฏหมายไปได้
การเคลื่อนไหวของสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ มีขึ้นจากข้อกล่าวหาที่ว่าประธานาธิบดีทรัมป์ ได้พยายามขอความช่วยเหลือจากประธานาธิบดียูเครนโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เพื่อให้มีการสอบสวนนายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัวเต็งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญของทรัมป์ในการเลือกตั้งปีหน้า รวมทั้งยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ผู้นำสหรัฐฯ ได้สั่งการให้นายมิค มัลวานี รักษาการหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ระงับความช่วยเหลือทางการทหารหลายล้านดอลลาร์กับยูเครน 1 สัปดาห์ ก่อนการหารือทางโทรศัพท์ระหว่าง 2 ผู้นำจะเกิดขึ้น
หลังจากมีประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้น ผู้นำสหรัฐฯ ออกมายอมรับว่าได้มีการระงับความช่วยเหลือกับยูเครนจริง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ข้อแลกเปลี่ยนเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง
ล่าสุด ประธานาธิบดีทรัมป์ ทวีตข้อความตอบโต้การเปิดกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดี โดยกล่าวว่าเป็นแผนการล่าแม่มด และเป็นการรังแกประธานาธิบดี ขณะที่เมื่อช่วงเช้าวันอังคารผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่าจะเปิดเผยรายละเอียดการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างตนและผู้นำยูเครนฉบับเต็มในวันพุธ
ที่ผ่านมาตามประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน ไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใดถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งมาก่อน
