อังกฤษเรียกตัวเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงลอนดอนเข้าพบในวันพุธ หลังจากที่ทูตจีนประจำอังกฤษผู้นี้ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างปักกิิ่งกับลอนดอนกำลังถูกทำลาย เนื่องจากอังกฤษให้การสนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกง
เอกอัครราชทูต หลิว เสี่ยวหมิง ยังได้เตือนอังกฤษไม่ให้แทรกแซงกิจการภายในของจีน
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เจเรมี ฮันท์ ออกมากล่าวสนับสนุนการประท้วงในฮ่องกง ซึ่งเคยปกครองโดยอังกฤษจนกระทั่งปี ค.ศ. 1997 เมื่ออังกฤษคืนฮ่องกงให้กับจีนแผ่นดินใหญ่
รัฐมนตรีฮันท์ กล่าวว่า อังกฤษ ได้ลงนามในข้อตกลงที่มีผลทางกฎหมายเมื่อปี 1984 รับรองสถานะและเสรีภาพของชาวฮ่องกงภายใต้นโยบาย "หนึ่งประเทศ สองระบบการปกครอง" และอังกฤษยังคงยึดมั่นตามข้อตกลงนั้น ซึ่งจะมีผลร้ายแรงตามมาหากมีการละเมิดข้อตกลงดังกล่าว
ทางด้านสหรัฐฯ และพันธมิตร ได้ออกมาแสดงความกังวลต่อนโยบายที่รัฐบาลกรถงปักกิ่งนำมาใช้กับฮ่องกงเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ผู้ประท้วงชาวฮ่องกงต่างใช้ธงสหราชอาณาจักรเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งในการเดินขบวนในโอกาสครบรอบ 22 ปีที่ฮ่องกงกลับคืนสู่จีนแผ่นดินใหญ่ พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษเข้าร่วมในการแสดงพลังสนับสนุนเสรีภาพของชาวฮ่องกง
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์ สตีฟ จาง แห่ง London's School of Oriental and African Studies ให้ความเห็นว่า เวลานี้อังกฤษมิได้อยู่ในตำแหน่งที่สามารถกดดันอะไรจีนได้ พิจารณาจากที่จีนได้ก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจอันดับสองของโลก ในขณะที่อังกฤษกำลังเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอนจากการแยกตัวจากสหภาพยุโรป
นักวิเคราะห์ผู้นี้บอกว่า ประเด็นสำคัญไม่ใช่เรื่องที่อังกฤษพยายามสนับสนุนฮ่องกง แต่เป็นเรื่องที่จีนยอมปฏิบัติตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศหรือไม่อย่างไรมากกว่า