ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระบุว่า ฮ่องกงมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สูงที่สุดในโลก แม้จะผ่านช่วงระบาดหนักที่สุดไปแล้วก็ตาม
ฮ่องกงเผชิญกับการระบาดครั้งใหญ่จากเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ทำให้ทางการฮ่องกงใช้มาตรการเข้มงวดและการบังคับตรวจหาเชื้อ จนกระทั่งล่าสุดนี้ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่ายอดผู้ติดเชื้อเริ่มลดลงบ้างแล้ว
กาเบรียล เหลียง คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮ่องกง อ้างผลการศึกษาล่าสุดของทางมหาวิทยาลัย ที่ระบุว่า การระบาดระลอกที่ห้านี้ถึงจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา และคาดว่า ยอดผู้ติดเชื้อรายวันจะลดลงต่ำกว่า 1,000 คนภายในสิ้นเดือนหน้า และลดเหลือต่ำกว่า 100 คนภายในกลางเดือนพฤษภาคม
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฮ่องกงมียอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดเป็นสถิติใหม่ที่ 56,827 คน โดยยอดผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ทำให้ประชาชนกักตุนสินค้าตามซูเปอร์มาร์เก็ต หลังรัฐบาลส่งสัญญาณว่าอาจมีการล็อคดาวน์ทั่วเมือง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ยอดผู้ติดเชื้อกลับลดลง โดยเมื่อวันอังคาร มีผู้ติดเชื้อในฮ่องกงอย่างน้อย 28,475 คน ซึ่งเป็นวันที่สี่ที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ต่ำกว่า 50,000 คน
ดร. เดวิด โอเวนส์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์คลีนิคกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยฮ่องกง กล่าวกับวีโอเอว่า จากแนวโน้มการคาดการณ์ของเขานั้น ยอดผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงสุดเมื่อ 3-4 วันก่อนหน้านี้ และคาดว่าจะลดลงอย่างรวดเร็วและกลับมาอยู่ในระดับต่ำสุดภายในปลายเดือนนี้
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น หลังจากเมื่อวันจันทร์ รัฐบาลฮ่องกงเปิดระบบออนไลน์ให้ประชาชนบันทึกสถานะการติดเชื้อหลังตรวจเชื้อแบบ Rapid Antigen Test ได้
ดร. คาเรน เกรพิน รองศาสตราจารย์จากวิทยาลัยสาธารณสุข มหาวิทยาลัยฮ่องกง กล่าวกับวีโอเอว่า ยังไม่สามารถบอกได้ว่าการระบาดเลยจุดสูงสุดไปหรือยังเนื่องจากข้อมูลยังไม่ครบถ้วน แต่แม้ฮ่องกงจะผ่านพ้นช่วงการระบาดสูงสุดไปแล้วก็ตาม แต่อัตราการติดเชื้อก็ยังสูงอยู่
นางแคร์รี แลม ผู้ว่าการเกาะฮ่องกง ประกาศแผนตรวจเชื้อไวรัสแบบครอบคลุมสำหรับประชาชนทั้งหมดภายในเดือนนี้ โดยเป็นการตรวจแบบ nucleic acid test โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า โครงการตรวจดังกล่าวจะเริ่มในวันที่ 26 มีนาคม และจะใช้เวลาเก้าวัน
อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชนา มอร์นิง โพสต์ รายงานว่า โครงการดังกล่าวอาจถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนหน้า เพื่อเน้นรับมือกับการลดอัตราการเสียชีวิตในฮ่องกงก่อน
ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยของมหาวิทยาลัยฮ่องกง เผยแพร่การคาดการณ์ความรุนแรงของการระบาดระลอกที่ห้าของเชื้อไวรัส โดยการคาดการณ์ฉบับหนึ่งระบุว่า หากสถานการณ์ในฮ่องกงยังเป็นเช่นนี้ อาจมีผู้เสียชีวิตกว่า 5,000 คนในเดือนพฤษภาคม และอาจได้รับผลกระทบหากคนไข้ล้นระบบสาธารณสุขของฮ่องกง ในขณะที่การคาดการณ์อีกฉบับที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้วระบุว่า อาจมีผู้เสียชีวิตในฮ่องกงถึง 7,000 คนภายในเดือนมิถุนายน
อัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ต่อประชากร 1 ล้านคนของฮ่องกงเป็นอัตราที่สูงที่สุดในโลก โดยข้อมูลจาก Our World in Data ระบุว่า ฮ่องกงมีผู้เสียชีวิต 29.18 คนต่อประชากร 1 ล้านคน คำนวณจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เจ็ดวันนับจนถึงวันที่ 7 มีนาคม
แม้ฮ่องกงจะแจกจ่ายวัคซีนกว่า 13 ล้านโดสให้ประชากร 7.4 ล้านคนแล้ว แต่อัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำในกลุ่มประชาชนสูงอายุก็เป็นสาเหตุของอัตราการเสียชีวิตที่สูง ข้อมูลจากรัฐบาลระบุว่า มีประชาชนอายุมากกว่า 70 ปี เพียง 61 เปอร์เซ็นต์ และประชาชนอายุมากกว่า 80 ปี เพียง 32 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว
ผู้เสียชีวิต 91 เปอร์เซ็นต์จากยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 2,578 คน เสียชีวิตในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 70 ปี และเมื่อวันอังคาร ฮ่องกงมียอดผู้เสียชีวิตใหม่ 160 คน
ยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์
ในช่วงสองปีมานี้ ฮ่องกงให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์ โดยเป็นนโยบายควบคุมการระบาดแนวทางเดียวกับจีน แม้นโยบายดังกล่าวจะประสบความสำเร็จระดับนึง แต่ในปีนี้ปีเดียว ฮ่องกงกลับมียอดผู้ติดเชื้อสูงกว่ายอดเมื่อสองปีที่แล้วรวมกัน
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพในฮ่องกงระบุว่า นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของฮ่องกงนั้นไม่อิงอยู่กับความเป็นจริง อย่างไรก็ตาม เหลียง หว่านเหนียน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีน บอกกับสื่อทางการจีนว่า นโยบายดังกล่าวทำให้เป็นจริงได้ตามลำดับขั้น และจะต้องมีการลดยอดผู้เสียชีวิตลงก่อน
ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงยังระบุว่า การเพิ่มเตียงให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อยังจำเป็นต่อการลดอัตราผู้เสียชีวิตในฮ่องกง โดยเมื่อเดือนที่แล้ว หน่วยงานโรงพยาบาลฮ่องกงระบุว่า โรงพยาบาลในฮ่องกงรองรับผู้ป่วย 89 เปอร์เซ็นต์จากความจุทั้งหมด ทำให้รัฐบาลฮ่องกงติดต่อผู้รับเหมาก่อสร้างจากจีนให้สร้างอาคารการแพทย์แห่งใหม่เพื่อช่วยบรรเทาภาระทางสาธารณสุขของฮ่องกง
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ มีผู้ป่วยหลายสิบคนที่ต้องนอนรอบนเตียงผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลท่ามกลางอากาศหนาว โดยเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาล Carista Hospital ในฮ่องกงระบุว่า ผู้ป่วยสูงอายุไม่สามารถกักตัวแยกจากผู้อื่นได้ เนื่องจากพวกเขามาจากศูนย์ดูแลคนชราแห่งเดียวกัน ผู้ป่วยเหล่านี้จึงไม่มีทางเลือกนอกจากนอนรอหน้าโรงพยาบาลที่รับคนไข้จนเต็มแล้ว