ทางการฮ่องสั่งบังคับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับประชากร 7.5 ล้านคนในเดือนมีนาคมนี้ ขณะที่สถานการณ์การระบาดในพื้นที่เขตปกครองพิเศษของจีนนี้ยกระดับความรุนแรงขึ้นอย่างมากจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน
แครี แลม ผู้บริหารเกาะฮ่องกง ประกาศในวันอังคารว่า มาตรการบังคับตรวจหาเชื้อสำหรับประชาชนทั้งหมดนั้นจะทำการตรวจคนละ 3 ครั้งในช่วงเดือนมีนาคม โดยทางการจะเพิ่มกำลังความสามารถในการตรวจให้ได้มากถึงวันละ 1 ล้านชุดหรือสูงกว่านั้นด้วย
ทั้งนี้ แลม ประเมินว่า ด้วยจำนวนประชากรของฮ่องกงที่กว่า 7 ล้านคน เวลาที่จะใช้ในการตรวจน่าจะอยู่ที่ 7 วัน
นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์มา ฮ่องกงรายงานการติดเชื้อรายวันเฉลี่ยที่ราว 5,000 คน โดยสถานการณ์ดังกล่าวกลายมาเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้ระบบสาธารณสุขของเกาะนี้มีปัญหารับมือไม่ไหวในเร็วๆ นี้ ขณะที่ ตัวเลขผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ต้นปีมานั้นอยู่ที่เกือบ 54,000 คน และมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 145 คน
คำสั่งบังคับตรวจหาเชื้อทั่วฮ่องกงนี้มีออกมาหลังรัฐบาลกลางจีนส่งทีมนักระบาดวิทยา และบุคลากรด้านสาธารณสุข รวมทั้งส่งทรัพยากรทางการแพทย์มายังฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อช่วยควบคุมสถานการณ์การระบาด
และแม้จีนจะสั่งดำเนินมาตรการล็อกดาวน์พื้นที่หลายเมืองอยู่ ผู้บริหารฮ่องกงกล่าวว่า ยังไม่มีการพิจารณาที่จะดำเนินการดังกล่าว เพราะแผนงานนี้ “ไม่สะท้อนภาพความเป็นจริง” พร้อมปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลกรุงปักกิ่งออกคำสั่งต่างๆ มาให้พื้นที่เขตปกครองพิเศษนี้ทำตามเพื่อควบคุมการระบาด
อย่างไรก็ตาม แครี แลม ยอมรับในวันอังคารว่า พื้นที่สำหรับการแยกตัวผู้ติดเชื้อเพื่อเฝ้าระวังอาการของฮ่องกงนั้น “เริ่มอยู่ในภาวะไม่เพียงพออย่างรุนแรง” ในเวลานี้ โดยทุกฝ่าย “กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อสนับสนุนหน่วยงานส่วนกลาง” เพื่อจัดหาพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมแบบเข้มงวด ซึ่งรวมถึง การห้ามการรับประทานอาหารภายในร้านตั้งแต่เวลา 18 นาฬิกาเป็นต้นไป และการสั่งปิดธุรกิจบริการบางประเภท เช่น ยิม และบาร์ นั้น เพิ่งถูกขยายเวลาดำเนินการออกไปจนถึงวันที่ 20 เมษายน
นอกจากนั้น ทางการฮ่องกงประกาศในวันอังคารให้ภาคการเรียนในปีนี้จบลงเร็วกว่าปกติ พร้อมเลื่อนวันหยุดฤดูร้อนที่ปกติจะเป็นช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคมให้เร็วขึ้น มาเป็นระหว่างเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน ซึ่งจะเอื้อให้มีการใช้พื้นที่โรงเรียนต่างๆ เป็นจุดตรวจ จุดแยกกักตัว และจุดฉีดวัคซีนต่อไป
ส่วนนโยบายปิดพรมแดนสำหรับเที่ยวบินจากประเทศที่ฮ่องกงระบุว่า มีความเสี่ยงการระบาดสูง เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา อินเดีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ อังกฤษ และสหรัฐฯ นั้น ถูกขยายเวลาการบังคับใช้ออกไปถึงวันที่ 20 เมษายนด้วยเช่นกัน