ไฮเนเก้น (Heineken) บริษัทเบียร์สัญชาติดัทช์ และบริษัท ยูนิเวอร์แซล มิวสิก กรุ๊ป (Universal Music Group) กลายมาเป็นบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ล่าสุดที่ตัดสินใจพักการดำเนินธุรกิจของตนในรัสเซีย เพื่อตอบโต้ต่อการที่เครมลินส่งกองทัพรุกรานยูเครน
บริษัท ไฮเนเก้น ประกาศการตัดสินใจระงับการดำเนินธุรกิจในรัสเซียในวันพุธ โดยจะมีผลให้การจัดจำหน่าย การผลิต และแผนงานโฆษณาทั้งหมดยุติลงเป็นการชั่วคราว และจะหันไป “ยกระดับการสนับสนุนและการบริจาคให้กลุ่มเอ็นจีโอ ที่ดำเนินการอยู่ในโปแลนด์ ฮังการี โรมาเนีย และสโลวะเกีย” ในการให้ความช่วยเหลือผู้อพยพลี้ภัยชาวยูเครน
ก่อนหน้านี้ ไฮเนเก้น ประกาศแผนที่จะยุติแผนลงทุนต่างๆ และการส่งออกสินค้าไปยังรัสเซียแล้ว
ส่วน ยูนิเวอร์แซล มิวสิก ซึ่งเป็นค่ายเพลงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนั้นประกาศการตัดสินใจผ่านแถลงการณ์ทางเว็บไซต์ของตนว่า จะระงับการดำเนินธุรกิจทั้งหมดในรัสเซียและปิดสำนักงานทั้งหมดโดยมีผลทันที และบริษัทแห่งนี้ยังระบุด้วยว่า ตนได้ร่วมทำงานกับกลุ่มต่างๆ ในหลายประเทศเพื่อให้การสนับสนุนด้านมนุษยธรรมและนำส่งความช่วยเหลือเร่งด่วนต่างๆ ให้กับผู้ลี้ภัยในยูเครนอยู่แล้ว
การประกาศถอนตัวจากการทำธุรกิจในรัสเซียของบริษัทข้ามชาติชั้นนำทั้งสองแห่งนี้มีออกมา หลังธุรกิจหลายแห่งประกาศจุดยืนลงโทษรัสเซียไปแล้ว เช่น แมคโดนัลด์ (McDonald’s) ที่ประกาศปิดสาขาทั่วรัสเซียจำนวน 850 แห่งเป็นการชั่วคราว แต่ จะยังคงจ่ายเงินเดือนพนักงาน 62,000 คนในรัสเซียต่อไป เช่นเดียวกับ สตาร์บัคส์ (Starbucks) เชนร้านกาแฟจากสหรัฐฯ ที่ประกาศการตัดสินใจปิดสาขาทั้ง 130 แห่งในรัสเซียเป็นการชั่วคราวเช่นกัน รวมทั้ง จะระงับการส่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทไปยังรัสเซียด้วย
นอกจากนั้น โคคา-โคลา (Coca-Cola) และ เป๊ปซี่ (Pepsi) ก็เป็นธุรกิจข้ามชาติขนาดใหญ่ที่เพิ่งประกาศหรือปรับลดการทำธุรกิจของตนในรัสเซียด้วยเช่นกัน หลังถูกกดดันอย่างหนักจากหลายฝ่ายให้ร่วมลงโทษรัสเซีย
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บริษัท ยัม (Yum) ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเจ้าของเชนฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง เช่น เคเอฟซี (KFC) และพิซซ่า ฮัท (Pizza Hut) ประกาศปิดร้าน เคเอฟซี ทั้ง 70 สาขาในรัสเซีย และเปิดเผยว่า กำลังพูดคุยกับผู้ถือสิทธิ์แฟรนไชส์ พิซซ่า ฮัท ให้ปิดร้านสาขาทั้งหมดอยู่ด้วย