เทศกาลศิลปะนานาชาติ เวนิส เบียนนาเล (Venice Biennale) ประกาศชัดในวันพุธว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่าศิลปินที่เป็นตัวแทนของยูเครนได้เผยแพร่ผลงานของเขาในเวทีนี้ หลังจากตัวแทนจากฝั่งรัสเซียจะถอนตัวออกไปจากนิทรรศการงานศิลปะระดับโลกนี้ เพื่อประท้วงการบุกยูเครนเมื่อสัปดาห์ก่อน
พาฟโล มาคอฟ มีกำหนดการแสดงผลงานที่ชื่อว่า “The Fountain of Exhaustion. Acqua Alta” ในฐานะตัวแทนศิลปินจากยูเครน ในนิทรรศการศิลปะนานาชาติ เวนิส เบียนนาเล ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 เมษายน ถึง 27 พฤศจิกายนนี้
แถลงการณ์จากผู้จัดงานเมื่อวันพุธ ระบุว่า จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้มาคอฟเดินทางมายังอิตาลี และนำเสนอผลงานของเขาตามที่ตั้งใจ แม้จะเกิดภาวะสงครามในยูเครนบ้านเกิดขณะนี้
ท่าทีของผู้จัดงานเทศกาลศิลปะนานาชาติ เวนิส เบียนนาเล เป็นการแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันครั้งล่าสุดในโลกศิลปะกับยูเครน อีกทั้งยังเป็นการขึ้นบัญชีดำทางวัฒนธรรมกับรัสเซียและบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลมอสโก เหมือนกับปฏิกิริยาต่างๆ จากองค์กรกีฬานานาชาติมากมายที่ออกโรงเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันนี้
อย่างไรก็ตาม เทศกาลงานศิลป์แห่งเวนิสอันยิ่งใหญ่ระดับโลกนี้ ยังยืนยันว่าจะต้อนรับศิลปินจากรัสเซีย ผู้สนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และผู้ที่ต่อต้านการบุกรุกรานยูเครน แต่ตัวแทนจากทางการรัสเซียและชาวรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลเครมลินโดยตรงนั้นไม่ได้รับเชิญแต่อย่างใด
โดยในแถลงการณ์เมื่อวันพุธ ระบุว่า ตราบใดที่สถานการณ์ยังดำเนินอยู่ ทางผู้จัดงานจะปฏิเสธความร่วมมือในทุกรูปแบบกับผู้ที่กระทำการหรือสนับสนุนพฤติการณ์ก้าวร้าวรุนแรงนี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางสมาชิกของทางการรัสเซียที่ส่งมาเข้าร่วมงาน เวนิส เบียนนาเล ประกาศถอนตัวจากการเข้าร่วมงานนี้ เพื่อคัดค้านการก่อสงครามในยูเครน ซึ่งทางผู้จัดยกย่องการตัดสินใจดังกล่าวว่า “เป็นการแสดงความกล้าหาญอันสูงส่ง”
จนถึงขณะนี้ กระแสการคว่ำบาตรทางวัฒนธรรมกับรัสเซียยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการโจมตีของรัสเซียที่ยังไม่ยุติในยูเครน นับตั้งแต่รัสเซียบุกรุกรานยูเครนมาร่วมสัปดาห์
โดยหนังฟอร์มใหญ่ในฝั่งตะวันตกทยอยยกเลิกการเข้าฉาย นอกจากนี้วงการดนตรีคลาสสิคโลกยังประกาศตัดสัมพันธ์กับวาทยกรคนดังชาวรัสเซีย วาเลรี เกรเกียฟ (Valery Gergiev) ผู้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ที่ออกโรงสนับสนุนการผนวกรวมคาบสมุทรไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อปี 2014
ในประเด็นนี้ อดีตผู้จัดการของเกรเกียฟ ดั๊ก เชลดอน (Doug Sheldon) ระบุเมื่อวันพุธว่า ได้ยกเลิกงานคอนเสิร์ตทั้งหมดในแถบอเมริกาเหนือ โดยอ้างเหตุผลถึง “ความไม่เต็มใจที่จะกล่าวต่อต้าน” การรุกรานยูเครนของรัสเซีย และว่ารู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งที่ต้องยุติความสัมพันธ์ในด้านอาชีพอันยอดเยี่ยมกับเกรเกียฟที่มีมากกว่า 30 ปีนี้
เกรเกียฟเจอกระแสกดดันจากแวดวงศิลปะทั่วโลกให้ออกมาเคลื่อนไหวประณามการบุกยูเครนนี้ แต่เกรเกียฟยังคงนิ่งเฉยไม่แสดงความเห็นใดๆ ต่อสาธารณชนในประเด็นยูเครน จนนำไปสู่แรงกดดันใหม่ ที่วาทยกรคนดังของรัสเซียรายนี้ ถูกปลดออกจากตำแหน่งหัวหน้าวาทยกรของวงออร์เคสตรามิวนิค ฟิลฮาร์โมนิค (Munich Philharmonic) หลังไม่ยอมประณามรัสเซียบุกยูเครน และถูกปลดจากงานคอนเสิร์ตอีกหลายงานจากประเด็นดังกล่าว
ระหว่างเกรเกียฟถูกขึ้นบัญชีดำจากเวทีโลก เคียฟ โซโลอิส แนชันแนล แชมเบอร์ อองซอมเบิล (Kyiv Soloists National Chamber Ensemble) จากยูเครน ที่ออกแสดงในยุโรปและสหรัฐฯ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในอิตาลี และเพิ่มเวลาการทัวร์คอนเสิร์ตออกไปเพื่อเป็นการระดมทุนสนับสนุนการรับมือกับสงครามในบ้านเกิด ตามรายงานของเอพี
อีกทั้งยังแสดงจุดยืนที่แข็งแกร่งด้วยการถอดบทเพลงของนักประพันธ์รัสเซีย แอนตัน อาเรนสกี (Anton Arensky) และแทนที่ด้วยผลงานจากนักประพันธ์ชาวยูเครน แม็กซิม เบเรซอฟสกี (Maxim Berezovsky) และเพิ่มบทเพลงที่เรียกร้องสันติภาพและความสงบสุขท่ามกลางวิกฤตยูเครน
อย่างไรก็ตาม ในหัวใจของคณะดนตรีที่บรรเลงขับขานบทเพลงแห่งสันติภาพเพื่อยูเครนในแดนไกล ยังคงหวาดวิตกและกังวลถึงสวัสดิภาพความปลอดภัยของครอบครัวในกรุงเคียฟ เมื่อมีเวลาว่างจากการซักซ้อมและแสดงดนตรี พวกเขาจะหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อติดต่อกับครอบครัวในยูเครน และต้องติดตามข่าวสารความวุ่นวายเสียหายที่เกิดขึ้นในยูเครนไปพร้อมกัน
โดยหนึ่งในสมาชิกของวงที่ต้องพรากจากภรรยา ลูกสาว และแม่ของเขาในยูเครนเพื่อมาแสดงดนตรีในอิตาลีก่อนเหตุโจมตียูเครนจะปะทุขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะเล่นดนตรี ทั้งที่จิตวิญญาณและหัวใจของเขาแหลกสลายระหว่างที่บรรเลงเพลงออกไป
- ที่มา: เอพี