ทางการยูเครน ระบุว่า กองทัพรัสเซียเดินหน้าถล่มเมืองคาร์คิฟ ที่เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน ในวันอังคาร หลังการบุกรุกยูเครนของกองทัพรัสเซียดำเนินเข้าสู่วันที่หกแล้ว
ทางกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เตือนให้ผู้คนอพยพออกจากกรุงเคียฟ ก่อนที่จะมีการระดมโจมตีอาคารด้านการสื่อสารและความมั่นคงในพื้นที่อย่างหนักในวันอังคาร ตามรายงานของรอยเตอร์ อีกทั้งยังมีรายงานเหตุโจมตี Kyiv TV tower ทำให้มีผู้เสียชีวิตอีก 5 คน และกระทบต่อการนำเสนอข่าวสารของสื่อยูเครนในเวลาต่อมา และทางการยูเครนระบุว่า มีกองทัพจากเบลารุสที่เข้ามายังภูมิภาคเชอร์นิฮิฟของยูเครนแล้ว ซึ่งทางเลขาฯนาโต้ กล่าวว่า ชาติพันธมิตรจะถือว่าทั้งรัสเซียและเบลารุสมีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครน
ขณะที่กระทรวงต่างประเทศยูเครน เผยคลิปวิดีโอเหตุโจมตีใจกลางเมืองคาร์คิฟ ที่สร้างความเสียหายในวงกว้าง หน่วยฉุกเฉินของยูเครนระบุเบื้องต้นว่าพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน และบาดเจ็บอีก 20 คนจากเหตุโจมตีดังกล่าว และประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวว่า เป็นการโจมตีโดยขีปนาวุธของรัสเซียในวันอังคาร ว่าเข้าข่ายอาชญากรรมสงครามและการก่อการร้าย พร้อมกับกล่าวว่า รัสเซียต้องหยุดโจมตีผู้คนก่อนที่การเจรจาสันติภาพจะดำเนินต่อไปได้
การโจมตียูเครนในรัสเซีย ดำเนินเข้าสู่วันที่หก หลังจากการเจรจานัดแรกเพื่อยุติการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน ยุติลงเมื่อวันจันทร์โดยยังไม่ได้ข้อตกลงนอกจากจะมีกำหนดเจรจาต่อไป ขณะที่ยูเครนเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับตะวันตกโดยยื่นใบสมัครขอเข้าร่วมสหภาพยุโรป หรือ อียู ต่อไป ตามรายงานของเอพี
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีเซเลนสกี ได้ต่อสายตรงเป็นเวลา 30 นาทีในวันอังคาร เพื่อหารือถึงสถานการณ์และความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ยูเครน
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กล่าวเตือนในเวทีประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในวันอังคารว่า บทบาทของกฎระเบียบระหว่างประเทศ ที่ช่วยปกป้องสันติสุขและความมั่นคงจะอ่อนแอลงไป หากประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน รอดพ้นจากการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศจากการรุกรานยูเครนที่มีการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า และว่าประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนและวิกฤตด้านมนุษยธรรมในยูเครนจะเลวร้ายลง หากปธน.ปูติน ประสบความสำเร็จในการโค่นล้มรัฐบาลยูเครนที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย
- เนื้อหาบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์