ในอดีต เด็กทารกที่คลอดกับมารดาที่ติดเชื้อเอชไววีได้รับเชื้อที่ส่งผ่านจากมารดาเสมอ เด็กทารกเหล่านี้ป่วยและเสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่ในปัจจุบัน เด็กทารกที่มารดาติดเชื้อกลับปลอดจากเชื้อเอชไอวี
ประเทศไทยประสบความสำเร็จในยุติการส่งผ่านเชื้อเอชไอวีจากมารดาสู่ทารกแล้ว และถือเป็นชาติเเรกในเอเชียที่ทำได้สำเร็จ ส่วนประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ อีกหลายประเทศรวมทั้ง เฮติ ซึ่งกำลังใกล้จะบรรลุเป้าหมายเดียวกันนี้เเล้ว
บรรดารัฐบาลประเทศต่างๆ ทีมนักวิทยาศาสตร์และหน่วยงานสาธารณสุขในสหรัฐฯ กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อยุติการส่งต่อเชื้อเอชไอวีจากมารดาไปสู่ทารกในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
คุณ Rachel Sturke นักวิทยาศาสตร์อาวุโสที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (the National Institutes of Health) กล่าวว่า การยุติการติดเชื้อเอชไอวีในทารกจากมารดาเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่สำคัญของวงการวิจัยเอดส์ แต่ยังมีเด็กทารก 150,000 คนในประเทศรายได้น้อยและปานกลางที่ติดเชื้อเอชไอวีทุกปี
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ยังไม่สามารถทำให้ผู้หญิงที่ติดเชื้อเอชไอวีเข้ารับการบำบัดและคงการบำบัดไปตลอดชีวิต เนื่องจากมีอุปสรรคหลายอย่าง เช่น คลินิคอาจจะตั้งอยู่ไกลทำให้เข้าไม่ถึงการบำบัด และไม่สามารถคงการบำบัดได้ตลอดไป นอกจากนี้ยังมีทัศนคติทางลบทางสังคมต่อผู้ติดเชื้ออีกด้วย
ทีมนักวิทยาศาสตร์ที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ กำลังศึกษาวิจัยวิธีการต่างๆ ในการป้องกันการส่งต่อเชื้อเอชไอวีจากมารดาสู่ทารก คุณ Sturke เป็นหนึ่งในทีมนักวิทยาศาสตร์ทีมนี้ เธอกล่าวว่า การศึกษาชิ้นหนึ่งวิจัยว่าการจัดให้บริการตรวจหาเชื้อและการบำบัดในโบสถ์มีผลแตกต่างอย่างไรกับการให้บริการในคลินิค ทีมนักวิจัยพบว่าหากบาทหลวงเชิญหญิงตั้งครรภ์มาร่วมงานฉลอง baby showers ที่โบถส์ พร้อมให้บริการตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีด้วย จะมีจำนวนผู้หญิงที่ได้รับการตรวจและเข้ารับการบำบัดหากติดเชื้อมากขึ้นถึงสองเท่าตัว เมื่อเทียบกับจำนวนผู้หญิงที่เข้ารับการบริการแบบเดียวกันในคลินิค
ทีมนักวิจัยยังพบด้วยว่า การให้บริการตรวจหาเชื้อและให้คำปรึกษาที่บ้าน ช่วยเพิ่มโอกาสขึ้นเท่าตัวที่ผู้ชายจะรับการตรวจและเข้ารับการบำบัด การวิจัยนี้มุ่งเน้นศึกษาว่าแนวทางใดได้ผลดีกว่าในการส่งเสริมให้คนเข้ารับการตรวจเลือดและการบำบัด
ด้าน Centers for Disease Control ในสหรัฐฯ หรือ CDC ค้นพบว่า ทำไมประเทศไทยจึงประสบความสำเร็จในการหยุดยั้งการเเพร่เชื้อเอชไอวีจากมารดาไปสู่ทารก ด็อกเตอร์ Tom Frieden ผู้อำนวยการแห่ง CDC ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าววีโอเอผ่านทางสไกฟ์ ถึงกุญแจสำคัญสามอย่างที่ทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย
ด็อกเตอร์ Tom Frieden ผู้อำนวยการแห่ง CDC กล่าวว่า อย่างแรกต้องมีความรู้ทางเทคนิคอย่างถูกต้อง เพื่อให้ผู้ติดเชื้อได้รับยาบำบัดอย่างถูกต้องตั้งเเต่ต้น ประการที่สองต้องรวมบริการบำบัดเชื้อไวรัสเข้ากับการบริการตรวจครรภ์ที่ต้องทำเป็นประจำ และประการสุดท้ายคือการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากฝ่ายรัฐบาล
สำนักงาน CDC ได้ทำงานร่วมกับทีมนักวิทยาศาสตร์ไทยและรัฐบาลไทยมานานกว่า 20 ปีเเล้วเพื่อทำงานด้านนี้ แต่ประเทศอื่นๆ ก็สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้เช่นกันในการลดการส่งต่อเชื้อจากมารดาสู่ทารกได้เร็วขึ้นกว่าระยะเวลาที่ประเทศไทยใช้ เพราะมีความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่แล้ว และการบำบัดด้วยยาก็ได้ผลดี เพียงเเค่ต้องใช้ความพยายามนำไปใช้งานเท่านั้น
เป้าหมายคือต้องลดการติดเชื้อเอชไอวีของทารกจากมารดาปีละ 150,000 คนให้ลงมาอยู่ที่ศูนย์ให้สำเร็จ
(รายงานโดย Carol Pearson / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)
