ที่มหาวิทยาลัยฮูสตั้นซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ นักศึกษาเริ่มทยอยเดินทางกลับเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่กันแล้ว หลายคนไม่รู้ว่าอาจจะมีนักศึกษาบางคนที่พกพาปืนเข้าในรั้วมหาวิทยาลัย
Ali นักศึกษาผู้หนึ่ง กล่าวว่าตนไม่สะทกสะท้านกับเรื่องนี้ ตนไม่แตกตื่นกลัวว่าจะถูกยิงในเขตมหาวิทยาลัย เขาบอกว่ากฏหมายนี้ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกแปลกแตกต่างไปจากเดิมแต่อย่างใด
ส่วนนักศึกษาบางคนกังวลถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดความรุนแรงเกี่ยวข้องกับอาวุธปืน ในขณะที่อีกหลายคนบอกว่า คนที่ได้รับในอนุญาตให้มีอาวุธปืนอย่างถูกต้องน่าจะช่วยป้องกันปัญหาอาชญากรรมได้
นักศึกษาบางคนบอกว่า มหาวิทยาลัยเป็นที่ที่มีความเครียด คนในมหาวิทยาลัยไม่เป็นคนที่จิดใจปกติไปเสียทุกคน ดังนั้นการอนุญาตให้พกพาอาวุธเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยมีแต่จะนำไปสู่ปัญหา
ด้าน Thomas นักศึกษาอีกคนหนึ่งบอกว่า ตนเองรู้สึกปลอดภัยในเขตมหาวิทยาลัย เมื่อรู้ว่ามีคนที่มีในอนุญาตถืออาวุธปืนอย่างถูกต้อง และพกพาอาวุธเข้ามาอย่างถูกกฏหมายเพราะจะช่วยไม่ให้เกิดเหตุร้ายได้
สำนักงานตำรวจประจำมหาวิทยาลัยฮูสตั้น ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายและขั้นตอนการพกพาอาวุธปืนในรั้วมหาวิทยาลัยทางออนไลน์ แต่ทางฝ่ายบริหารของมหาวิทยาลัยยังเลี่ยงไม่ดึงดูดความสนใจต่อเรื่องนี้
ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ David Branham กล่าวว่า อาจารย์ของมหาวิทยาลัยหลายคนกังวลเกี่ยวกับความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หากนักศึกษาที่พกพาอาวุธปืนตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด เขากล่าวว่าอาจารย์หลายคนกังวลเกี่ยวกับนักศึกษาที่สอบตกบางวิชา ที่อาจต้องการให้อาจารย์ปรับเกรดให้ดีขึ้น แต่อาจารย์ไม่ยอมเพราะไม่ยุติธรรมต่อนักศึกษาคนอื่นๆ
ซึ่งตอนนี้อาวุธปืนได้เข้ามาในมหาวิทยาลัยได้ตามกฏหมาย สร้างความกังวลว่าอาจจะมีคนนำปืนไปใช้ผิดจุดประสงค์ได้
มีอาจารย์คนหนึ่งที่ลาออกจากมหาวิทยาลัย สืบเนื่องจากความกังวลต่อกฏหมายพกพาอาวุธปืนในมหาวิทยาลัยฉบับนี้ และกลุ่มเจ้าหน้าที่อีกกลุ่มหนึ่งของมหาวิทยาลัย ล้มเหลวในความพยายามฟ้องร้องรัฐเท็กซัสไม่ให้อนุมัติกฏหมายนี้ออกมาใช้
แรงต้านที่รุนแรงที่สุดต่อเรื่องนี้ มีขึ้นที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสในเมืองออสติน ซึ่งเป็นเมืองที่เกิดเหตุการณ์ยิงสังหารหมู่ครั้งแรกในสหรัฐฯเมื่อ 50 ปีที่แล้ว
คุณซาบีน วาคิน แห่งมหาวิทยาลัยแห่งนี้ กล่าวว่าทั้งฝ่ายเห็นด้วยและฝ่ายต่อต้านปืนต่างต้องการป้องกันความรุนแรงจากอาวุธปืนแบบเดียวกันนี้
เธอบอกว่าทั้งสองฝ่ายควรแก้ปัญหาด้วยการจับเข่าคุยกันถึงความกังวลของตน เธอกล่าวว่าหากทั้งสองฝ่ายเข้าอกเข้าใจกันว่าจุดยืนของตนคืออะไร ก็น่าจะสามารถพูดคุยเจรจากันได้ ว่าเราควรมีวิธีป้องกันตนเองอย่างไร ที่จะมีประสิทธิภาพในการช่วยป้องกันไม่ให้ความรุนแรงทางอาวุธปืนเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยเอกชนในรัฐเท็กซัสไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฏหมายนี้
(รายงานโดย Greg Flakus / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)