Sitora Yusifiy อดีตภรรยาของ Omar Mateen ผู้ยิงสังหารหมู่ที่รัฐฟลอริด้า ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออเมริกา ว่านาย Mateen มีสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคง ซึ่งจะทำให้มีการพูดคุยในสังคมว่าควรทำอย่างไร เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยทางจิตเข้าถึงปืนได้อย่างง่ายดาย แต่รายงานจาก VOA พบว่า การป่วยทางจิตไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่
เมื่อทุกครั้งที่เกิดเหตุยิงสังหารในอเมริกา ประชาชนมักจะไว้อาลัยเหยื่อผู้เสียชีวิตในสถานที่ที่พวกเขาต้องจากโลกไป บางคนทิ้งลูกโป่งไว้ บ้างก็ไว้อาลัยด้วยดอกไม้ และโศกนาฏกรรมในแต่ละครั้งจะส่งผลกระเทือนไปทั่วทั้งอเมริกา
และแน่นอนว่าบางคนก็จะออกมากเรียกร้องให้เพิ่มความเข้มงวดเรื่องกฏหมายการป้องกันไม่ให้ผู้ที่ป่วยทางจิตสามารถเข้าถึงปืนได้
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีบารัค โอบามาปรากฏตัวที่สำนักข่าว CNN ในรายการที่พูดคุยเรื่องความเข้มงวดของกฏหมายควบคุมปืน
เจ้าหน้าที่รักษากฏหมายคนหนึ่งได้ตั้งคำถามว่า จะป้องกันการยิงสังหารหมู่และการก่อการร้ายอย่างไร และเราจะจัดการกับผู้ที่ป่วยทางจิตอย่างไร เพื่อให้เขาเคารพกฏหมาย
ผู้นำหลายคนในอเมริกาเชื่อมโยงปัญหาทางจิตกับการยิงสังหารหมู่ ประธานาธิบดีโอบามาได้เสนอให้นำเงิน 500 ล้านดอลล่าร์มาใช้เพื่อเพิ่มโอกาสการรักษาผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตและลดจำนวนเหตุการณ์การยิงสังหารหมู่และความรุนแรงจากปืนลง
แต่การวิจัยพบว่าผู้ที่ป่วยทางจิต รวมถึงผู้ที่มีโรคจิตเภท หรือ Schizophrenia โรคอารมณ์สองขั่ว และโรคความซึมเศร้าอย่างร้ายแรง ไม่ได้มีโอกาสสูงกว่าคนอื่นๆ ในการจะก่อเหตุยิงกราด
Beth McGinty ผู้ช่วยศาสตราจารย์จาก John Hopkins University School of Public Health เพิ่งเสร็จการวิจัยที่พบว่า คนที่ป่วยทางจิตส่วนใหญ่ มักจะไม่มีความรุนแรงต่อผู้อื่น และอาการป่วยทางจิต ไม่ใช่เหตุที่ทำให้เกิดความรุนแรงด้วยปืนส่วนใหญ่ในอเมริกา
เธอกล่าวกับ Voice of America ว่า “ถึงแม้ว่าเราจะสร้างระบบการรักษาผู้ป่วยทางจิตที่ยอดเยี่ยม เราอาจสามารถป้องกันความรุนแรงด้วยปืนได้เพียง 3-5 % มีการวิจัยที่น่าเชื่อถืออยู่จำนวนหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่า การเสนอข่าวเรื่องการป่วยทางจิต มักจะให้ความสนใจเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่บ่อย และส่วนใหญ่มักจะเป็นเหตุการณ์ที่มีคนสนใจมาก เช่น การยิงสังหารหมู่โดยคนที่ป่วยทางจิต”
ประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งในเรื่องนี้คือ การที่มองว่าการป่วยทางจิตเป็นเหตุให้เกิดความรุนแรงโดยปืน มักทำให้คนไม่พยายามเข้าใจถึงปัจจัยอื่นๆ
Paul Gionfriddo ประธานกลุ่มรณรงค์ Mental Health America ได้กล่าวว่า ถ้าเราไม่นึกทันทีที่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงว่าเกิดขึ้นเพราะการป่วยทางจิต เราอาจจะนึกถึงปัจจัยอื่นๆก็ได้ การตอบสนองทันทีว่าผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิตนี้ ไม่ช่วยอะไร เพราะยังทำให้คนเหล่านี้ มีตราบาปและทำให้เป็นการยาก ที่จะนำไปรับการรักษา
ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเชื่อว่า ยังไม่มีการศึกษาเรื่องของปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความรุนแรงโดยปืนมากพอ และควรต้องศึกษาในแง่ของภัยคุกคามทางสาธารณสุข เพื่อที่จะทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงโดยปืนลดลง หรือหมดไป
