ในงานรับปริญญาบัตรที่สหรัฐฯ บรรดามหาวิทยาลัยเเละวิทยาลัยต่างๆ นิยมเชิญคนที่มีชื่อเสียงหรือเป็นที่ยอมรับในความสำเร็จด้านใดด้านหนึ่งไปเป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์ โดยนักพูดรับเชิญนี้มีบทบาทในการให้คำเเนะนำเเก่บัณฑิตทั้งหลายถึงการทำงานเเละชีวิตในโลกภายนอก
ในปีนี้ ผู้กล่าวสุนทรพจน์มีตั้งเเต่ ชาดวิค บอสแมน ดาราพระเอกผิวสีจากหนังซุปเปอร์ฮีโร่ "แบล็ค แพนเธอร์" นางคริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่แห่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เเละอดีตผู้บริหารบริษัทน้ำมัน
ตลอดจน โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรหญิงและเจ้าของธุรกิจสื่อชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ
วินฟรีย์กล่าวในงานพิธีรับปริญญาบัตรของบัณฑิตจากภาควิชานิเทศศาสตร์และการสื่อสารมวลชน Annenberg มหาวิทยาลัยเซาธ์เทิร์นแคลิฟอร์เนีย (Southern California Annenberg School of Communications and Journalism) ว่าบัณฑิตใหม่ต้องเข้าใจว่างานที่ทำไม่มีทางเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้เสมอไป
เธอบอกว่า แน่นอนว่าบางวันอาจจะรู้สึกเบื่อกับงานที่ทำ และบางวันอาจจะไม่อยากไปทำงานเลย แต่ควรบังคับตัวเองให้ไปทำงาน เเละต้องจำไว้เสมอว่างานที่ทำไม่ใช่ตัวตนของเรา แต่เป็นสิ่งที่ทำเพื่อจะได้เป็นคนที่อยากเป็นในวันข้างหน้า และแน่นอนว่าจะเจอกับเจ้านายที่เอาความคิดของเราไปเป็นผลงานของตัวเอง
วินฟรีย์ยังเเนะนำบัณฑิตจบใหม่ด้วยว่าให้รับประทานอาหารเช้าให้เต็มอิ่มก่อนไปทำงาน
ด้านอดีต รมต.ต่างประเทศ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ได้กล่าวสุนทรพจน์แก่บัณฑิตที่ Virginia Military Institute ในเมืองเลคซิงตัน รัฐเวอร์จีเนีย ว่าให้พวกเขาระลึกคุณของคนที่ช่วยให้ตนเองประสบความสำเร็จ อย่างพ่อเเม่เเละครูอาจารย์
เขายังพูดถึงประชาธิปไตย ความโปร่งใส เเละข้อมูลที่เป็นจริงอีกด้วย โดยกล่าวว่าเราจะสามารถสร้างสภาพที่เอื้อต่อสังคมที่มีเสรีภาพทางประชาธิปไตยได้ ก็ต่อเมื่อเราปกป้องข้อมูลที่เป็นจริงเเละข้อเท็จจริงอย่างเเข็งขัน
เขากล่าวว่า หากผู้นำของประเทศหาทางปกปิดความจริง หรือเราในฐานะประชาชนกลับยอมรับในข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ชาวอเมริกันก็จะเดินหน้าไปสู่การละทิ้งอิสรภาพของตนเองอย่างสมัครใจ
บอสแมน ดาราพระเอกชื่อดังจากหนังยอดนิยมเเห่งปี 2018 กล่าวสุนทรพจน์ในงานพิธีรับปริญญาบัตรที่มหาวิทยาลัยฮาววาร์ด (Howard University) ในกรุงวอชิงตัน ซึ่งตัวเขาเองเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเเห่งนี้
มหาวิทยาลัยฮาววาร์ดเป็นหนึ่งมหาวิทยาลัยชั้นนำที่นักศึกษาส่วนใหญ่เป็นคนผิวสีในสหรัฐฯ หรือที่เรียกว่า HBCU และเมื่อเร็วๆ นี้ เจอกับปัญหาคอรัปชั่นที่เกี่ยวข้องกับเงินช่วยเหลือนักศึกษา ซึ่งบอสแมนได้กล่าวถึงความอื้อฉาวนี้เเละปัญหาอื่นๆ ที่นักศึกษาประสบ โดยเฉพาะนักศึกษาอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน
เขากล่าวว่า บัณฑิตจำนวนมากที่กำลังจะโบยบินจากรั้วมหาวิทยาลัย เเละเข้าสู่ระบบเเละสถาบันต่างๆ ที่มีประวัติของการเลือกปฏิบัติและการกีดกันทางสีผิวเเละเชื้อชาติ เเต่บอสแมนเเนะนำว่า ปัญหาเหล่านี้จะทำให้บัณฑิตเป็นคนที่ดีขึ้น
ด้าน โอปราห์ วินฟรีย์ ได้เร่งเร้าบัณฑิตให้ออกไปใช้สิทธิ์ในการเสียงเลือกตั้ง เเละมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา เธอกล่าวว่าบัณฑิตต้องเลือกปัญหาใดปัญหาหนึ่ง จะเป็นอะไรก็ได้ เเล้วหาทางแก้ไข เพราะสำหรับคนที่ได้รับผลกระทบ ความพยายามในการแก้ปัญหามีความสำคัญต่อคนเหล่านี้
ส่วน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่แห่งไอเอ็มเอฟ ได้เรียกร้องให้บัณฑิตใหม่มองไปไกลกว่าแค่อนาคต เพื่อพิจารณาถึงผลกระทบที่เกิดจากการตัดสินใจเลือกทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเเละผลงาน
ลาการ์ดกล่าวสุนทรพจน์กับบัณฑิตใหม่ในพิธีรับปริญญาบัตรที่วิทยาลัยแคลร์มอนท์ แม็คเคนนา (Claremont McKenna College) ในแคลร์มอนท์ รัฐแคลิฟอร์เนีย และลาการ์ดเรียกร้องให้บัณฑิตใหม่ครุ่นคิดดูว่ าโลกในปัจจุบันเเตกต่างจากโลกเมื่อ 10 ปีที่แล้วอย่างไรบ้าง เเละโลกในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้าจะเเตกต่างจากปัจจุบันอย่างไร
เธอยังขอให้บัณฑิตใหม่ถามตัวเองว่า วางแผนอย่างไรที่จะทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปในทางที่พวกเขาต้องการ
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)