องค์กรผู้ลี้ภัยสากลมีแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดี ประณามเหตุการณ์ลอบสังหารผู้นำชาวมุสลิมโรฮีนจาลี้ภัย โมฮิบ อัลลาห์
รายงานข่าวระบุว่า นายอัลลาห์ถูกคนร้ายหลายคนยิงเสียชีวิตที่ค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศเมื่อวันพุธ โดยที่ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการลอบสังหารครั้งนี้
แถลงการณ์ขององค์กรผู้ลี้ภัยสากล ระบุว่า นายอัลลาห์คือผู้ที่เป็นปากเป็นเสียงในการปกป้องสิทธิมนุษยชนของผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมโรฮีนจาบนเวทีโลก
ทางด้านโฆษกสหประชาชาติ สเตฟานี เทรมเบลย์ กล่าวว่า สหประชาชาติขอประณามการลอบสังครั้งนี้อย่างรุนแรง และขอให้รัฐบาลบังกลาเทศเร่งสืบสวนเพื่อนำตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้
ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาในเมืองค็อกซ์ บาซาร์ ผู้หนึ่ง กล่าวกับวีโอเอภาคภาษาพม่า โดยไม่เปิดเผยชื่อว่า ชีวิตของนายอัลลาห์ตกอยู่ในอันตรายมาโดยตลอด และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้มีความกังวลต่อความปลอดภัยในค่ายผู้ลี้ภัยแห่งนี้
ขณะเดียวกัน สหประชาชาติชี้ว่า สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในเมียนมากำลังย่ำแย่ลงหลังจากเกิดการรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยคาดว่ามีประชาชนเมียนมาที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วยด้านมนุษยธรรรมราว 3 ล้านคนในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านคนเมื่อช่วยก่อนเกิดรัฐประหาร
ยูเอ็นระบุว่า เจ้าหน้าที่ความช่วยเหลือสามารถเข้าถึงประชาชนเมียนมาที่ต้องการเงินและอาหารอย่างเร่งด่วนได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น และประเมินว่าเวลานี้มีประชาชนเมียนมาที่ถูกจัดว่าเป็นกลุ่มคนยากจนที่สุดราว 20 ล้านคน
แอนดรูว์ เคิร์กวู้ด ผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติประจำเมียนมา กล่าวในวิดีโอคอลจากนครย่างกุ้งว่า ตนอาศัยอยู่ในเมียนมามานานกว่า 10 ปี แต่ไม่เคยเห็นความเดือดร้อนของประชาชนมากขนาดนี้มาก่อน
นายเคิร์กวู้ด กล่าวว่า มีประชาชนยานจนที่สุดราว 20 ล้านคนที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และมีผู้อพยพย้ายถิ่นฐานราว 200,000 คนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากการต่อสู้ระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ รวมทั้งกองกำลังป้องกันตนเองภาคประชาชน หรือ PDF ที่จัดตั้งขึ้นใหม่